มาสเตอร์การ์ด เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมาสเตอร์การ์ด (Mastercard Index of Consumer Confidence) สำหรับช่วงครึ่งหลังของปี 59 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในประเทศไทยอยู่ที่ 68.3 จุด โดยผู้บริโภคประเทศไทยมีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้นถึง 10.1 จุด หลังอยู่ในสภาวะซบเซามาสองปี ขณะที่ความเชื่อมั่นในโอกาสการหางานทำ และคุณภาพชีวิต ปรับตัวขึ้นเกินกว่า 10 จุด ทำให้ประเทศไทยอยู่ในเกณฑ์ที่ดี นำหน้าออสเตรเลีย มาเลเซีย และไต้หวัน
ทั้งนี้ ดัชนีดังกล่าวพบว่า อินเดียมีความเชื่อมั่นสูงสุดเมื่อเทียบในกลุ่มภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมีเมียนมา เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และบังคลาเทศ เข้ามาอยู่ใน 5 อันดับต้น
เมื่อดูในภาพรวมแล้วถือได้ว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิกนั้นยังคงระดับเดิม (โดยตลาด 9 แห่งจากทั้งหมด 17 แห่งนั้นมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงไม่เกิน 5 จุดเมื่อเทียบกับการสำรวจครั้งล่าสุด) คะแนนรวมช่วงครึ่งหลังของปี 59 ปรับตัวขึ้น 1.2 จุดจากครึ่งปีแรกมาอยู่ที่ 60.9 ทำให้ระดับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิกขึ้นมาอยู่ในเกณฑ์ดี (คะแนนเกิน 60) ได้อย่างฉิวเฉียด
อย่างไรก็ดี แม้ภาพรวมจะยังดูไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก แต่ตลาด 5 แห่งในภูมิภาคกลับมีความแตกต่างจากช่วง 6 เดือนก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด โดยมีฮ่องกง ไทย และบังคลาเทศที่ปรับตัวดีขึ้นกว่า 10 จุด ในขณะที่มาเลเซียและไต้หวัน ปรับตัวลดลงกว่า 10 จุดเช่นกัน
บังคลาเทศมีคะแนนความเชื่อมั่นพุ่งขึ้นสูงที่สุด โดยเพิ่มขึ้นถึง 11.2 จุด มาอยู่ที่ 82.8 ถือได้ว่าเป็นพัฒนาการด้านความเชื่อมั่นที่มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับการเพิ่มขึ้นเพียง 4.2 จุดในช่วงครึ่งแรกของปี 59 การเปลี่ยนแปลงนี้สอดคล้องกับพัฒนาการด้านอื่นๆ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในบังคลาเทศ โดยปัจจัยใหญ่ที่สุดนั้นมาจากการคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นจะมีแนวโน้มดีขึ้น (+24.6 จุด)
ขณะเดียวกัน ไทยและฮ่องกงมีคะแนนเพิ่มขึ้นมากถึง 10.1 จุด ส่งผลให้ระดับความเชื่อมั่นของไทยเข้ามาอยู่ในเกณฑ์ดี และฮ่องกงอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง
ในทางกลับกัน ตลาด 8 ใน 17 แห่งมีระดับความเชื่อมั่นแย่ลงเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี 59 โดยตลาดที่ระดับความเชื่อมั่นตกลงมากที่สุด ได้แก่ ไต้หวัน ตามมาด้วยมาเลเซีย และพม่า โดยผลการสำรวจชี้ให้เห็นว่าสภาวะของตลาดหุ้น เป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ความเชื่อมั่นถดถอยลง
อนึ่ง ช่วงระหว่างเดือน พ.ย.และ ธ.ค.59 ผู้ตอบแบบสำรวจจำนวนทั้งสิ้น 8,723 ราย อายุระหว่าง 18 ถึง 64 ปีจาก 17 ประเทศในเอเชียแปซิฟิกได้รับการสอบถามให้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับมุมมองทางเศรษฐกิจ 5 ประการในอีก 6 เดือนข้างหน้า อันได้แก่ สภาพเศรษฐกิจ โอกาสในการหางานทำโอกาสในการสร้างรายได้ที่มั่นคง ภาวะตลาดหุ้น และคุณภาพชีวิต โดยดัชนีนี้ได้มาจากการคำนวนระดับคะแนนตั้งแต่ 0 ถึง 100 โดยที่ 0 หมายถึง รู้สึกแย่ที่สุด และ 100 หมายถึงรู้สึกดีที่สุด ส่วนคะแนนระหว่าง 40 ถึง 60 จัดอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง