แหล่งข่าวจากกรมธนารักษ์ เปิดเผยถึงการเปิดจำหน่ายซองประมูลที่ราชพัสดุเชิงเศรษฐกิจจำนวน 15 แปลง จาก 13 จังหวัดว่า ตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.60 ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันแรกที่กรมธนารักษ์เปิดจำหน่ายซองประมูลนั้น พบว่าล่าสุดจนถึงขณะนี้มีผู้สนใจมาซื้อซองประมูลแล้ว 14 ราย รวม 18 ซอง ซึ่งผู้สนใจซื้อซองมีทั้งบุคคลและนิติบุคคล
โดยที่ราชพัสดุที่ได้รับความสนใจสูงสุดในขณะนี้ คือ ที่ราชพัสดุ แปลงวังค้างคาว เขตคลองสาน กรุงเทพฯ โดยพบว่ามีผู้สนใจซื้อซองประมูลแล้ว 4 ราย คือ บริษัท พันปีกรุ๊ป (ไทย ลาว กัมพูชา) จำกัด, บริษัท เดอะแจม แฟคตอรี่ จำกัด, บริษัท มนทาระ โฮลดิ้งส์ จำกัด และบริษัท สุภัทรา จำกัด
ส่วนที่ราชพัสดุที่ได้รับความสนใจในลำดับรองลงมา คือ แปลงหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีผู้สนใจซื้อซองประมูลแล้ว 3 ราย คือ บริษัท พันปีกรุ๊ป (ไทย ลาว กัมพูชา) จำกัด, บริษัท หัวหินทรัพย์สิริ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด และ หจก.กลุชาติธุรกิจ
นอกนั้นเป็นที่ราชพัสดุ จ.เชียงราย 2 ราย, จ.ตราด 1 ราย, จ.แพร่ 1 ราย, จ.นครสวรรค์ 1 ราย, จ.อำนาจเจริญ 1 ราย, จ.ยโสธร 1 ราย ส่วนที่ราชพัสดุที่ยังไม่มีเอกชนเข้ามาซื้อซองประมูลเลย พบว่าส่วนใหญ่เป็นจังหวัดทางภาคใต้ คือ จ.ภูเก็ต, จ.ตรัง, จ.นครศรีธรรมราช และ จ.สงขลา
"ตอนนี้เพิ่งจะเปิดให้ซื้อซองเป็นสัปดาห์แรกก็มีผู้สนใจแล้ว 14 ราย ซึ่งแปลงวังค้างคาว กับแปลงหัวหิน ได้รับความสนใจมากสุด แต่กว่าจะหมดเขตซื้อซอง ก็เชื่อว่าจะยังมีเอกชนสนใจเข้ามาซื้อซองเพิ่มเติม" แหล่งข่าว เปิดเผย"อินโฟเควสท์"
อย่างไรก็ดี กรมธนารักษ์ และสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ที่แปลงที่ราชพัสดุตั้งอยู่ จะเปิดจำหน่ายซองประมูลไปจนถึงวันที่ 23 ก.พ.60 และกำหนดให้ยื่นซองประมูลในวัที่ 25 เม.ย.60 ซึ่งการเปิดประมูลที่ราชพัสดุเชิงเศรษฐกิจในครั้งนี้ กรมธนารักษ์มีวัตถุประสงค์ที่จะเปิดหาผู้ลงทุนในที่ดินทั้ง 15 แปลงที่มีศักยภาพดังกล่าว เป็นการขยายฐานกลุ่มนักลงทุนให้ร่วมเสนอโครงการที่ราชพัสดุในรูปแบบและแนวคิดที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาประเทศโดยรวม