สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนธ.ค.59 อยู่ที่ 105.72 ขยายตัว 0.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY) ทำให้ MPI ไตรมาส 4/59 เพิ่มขึ้น 1.46% และภาพรวมทั้งปี ขยายตัว 0.45% โดยอุตสาหกรรมสำคัญที่ส่งผลบวก ได้แก่ เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์ยาง อัญมณีและเครื่องประดับ และอาหารทะเลกระป๋องแช่แข็ง
สำหรับในเดือน ธ.ค.59 เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก การผลิตขยายตัวเพิ่มขึ้น 24.46% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากราคาเหล็กที่ปรับสูงขึ้น ในขณะที่ปีก่อนราคาเหล็กตกต่ำ ผู้ผลิตในประเทศสู้ราคาสินค้านำเข้าไม่ได้จึงมีการผลิตที่น้อยกว่า เช่นเดียวกับเหล็กแผ่นรีดเย็น เหล็กแผ่นเคลือบโครเมี่ยม และเหล็กแผ่นรีดร้อน อย่างไรก็ตามปริมาณความต้องการใช้ยังคงมีอยู่น้อยถ้าเทียบกับในช่วงภาวะปกติ
ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ การผลิตขยายตัวเพิ่มขึ้น 15.70% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากความต้องการใช้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จำพวก Other IC, Monolithic IC และ Transistors ที่ใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์และเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นตามแนวโน้มของเทคโนโลยียานยนต์และอุปกรณ์ที่ปรับมาใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น โดยเพิ่มขึ้นทั้งในตลาดยุโรปและสหรัฐฯ
ผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ การผลิตขยายตัวเพิ่มขึ้น 9.74% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุจากปริมาณสต็อกยางพาราในการผลิตยางแผ่น และผลิตภัณฑ์ยางแท่ง ของตลาดจีนปรับลดลง จึงมีคำสั่งซื้อจากประเทศจีน
เครื่องประดับ การผลิตขยายตัวเพิ่มขึ้น 20.01% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะเครื่องประดับจำพวกกำไล จากส่งออกที่มีแนวโน้มพื้นตัวต่อเนื่อง
อาหารทะเลกระป๋องและแช่แข็ง การผลิตขยายตัวเพิ่มขึ้น 11.36% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการขยายตลาดในประเทศเพิ่มขึ้นและการเร่งผลิตในฤดูกาลนี้ โดยมีปลาแช่แข็ง เป็นสินค้าหลักที่ขยายตัว รองลงมาเป็นปลาหมึกแช่แข็ง
ขณะที่สินค้าในอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลลบต่อดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ในดือนธ.ค. 59 ได้แก่ รถยนต์และเครื่องยนต์สำหรับรถยนต์ โดยการผลิตลดลง 15.98% และ 9.97% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในช่วงเดือนธันวาคมปีก่อน ผู้บริโภคมีการเร่งซื้อรถยนต์เพิ่มขึ้นก่อนราคาขายจะปรับขึ้นตามโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ในเดือน ม.ค.59 โดยปีนี้ตลาดรถยนต์นั่งชะลอตัวลงมากจากกำลังซื้อในประเทศที่ฟื้นตัวช้า ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลผู้ผลิตรถยนต์ยังไม่มีโมเดลใหม่ในตลาด