กระทรวงพาณิชย์ แถลงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) เดือน ม.ค.60 อยู่ที่ 110.75 ขยายตัว 1.55% เมื่อเทียบกับ ม.ค.59 และหากเทียบกับเดือน ธ.ค.59 ขยายตัว 0.16%
ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) เดือน ม.ค.60 อยู่ที่ 101.05 ขยายตัว 0.75% เมื่อเทียบกับ ม.ค.59 และขยายตัว 0.07% เมื่อเทียบกับ ธ.ค.59
สำหรับดัชนีราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่ม เดือน ม.ค.60 อยู่ที่ 101.51 เพิ่มขึ้น 1.53% เทียบกับเดือน ม.ค.59 และเพิ่มขึ้น 0.01% เทียบกับเดือน ธ.ค.59 ส่วนดัชนีราคาสินค้าหมวดที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มอยู่ที่ 100.33 เพิ่มขึ้น 1.55% เมื่อเทียบกับเดือน ม.ค.59 และเพิ่มขึ้น 0.24% เมื่อเทียบกับเดือน ธ.ค.59
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) เดือน ม.ค.60 ที่เพิ่มขึ้น 1.55% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนนั้นถือว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อเศรษฐกิจไทยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น หลังจากดัชนีฯ ค่อนข้างจะทรงตัวมาตลอดในปีที่ผ่านมา และเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี 59
"เงินเฟ้อในเดือนมกราคมนี้ถือว่าเหมาะสมกับเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงขาขึ้น หลังจากที่ทรงตัวมานานและเพิ่งจะเริ่มดีขึ้นเมื่อปลายปี ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีที่สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น และการปรับขึ้นของอัตราเงินเฟ้อในเดือนมกราคมนี้เป็นผลมาจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นสำคัญ" น.ส.พิมพ์ชนก ระบุ
อนึ่ง อัตราเงินเฟ้อในเดือน ม.ค.60 ที่ระดับ 1.55% ถือว่าปรับตัวสูงขึ้นในรอบ 28 เดือน นับตั้งแต่เดือน ก.ย.57 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.75%
ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้นนั้นยังไม่ถือว่าอยู่ในระดับที่น่ากังวลหรือจะมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนแต่อย่างใด ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ ทั้งในส่วนของกรมการค้าภายใน และสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าเองจะติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด และไม่ให้มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นอย่างไม่เหมาะสม
"ตอนนี้เงินเฟ้อยังไม่อยู่ในอัตราที่น่ากังวลต่อประชาชน ไม่สูงจนต้องกังวล สินค้าที่ปรับราคาเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลมาจากราคาน้ำมัน ปีนี้ทาง สนค.และกรมการค้าภายในจะติดตามราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด ไม่ให้ปรับขึ้นราคาอย่างไม่สมเหตุสมผล แต่คงไม่ได้หมายความว่าจะไม่ให้ปรับขึ้นเลย" น.ส.พิมพ์ชนก กล่าว
สำหรับในเดือน ม.ค.60 จากบัญชีสินค้ารายการสินค้า 422 รายการที่นำมาคำนวณอัตราเงินเฟ้อ พบว่า มีสินค้าที่ราคาสูงขึ้น 139 รายการ เช่น ปลาทู กุ้งขาว กระเทียม ผลไม้สด กาแฟผงสำเร็จรูป ค่าเช่าบ้าน รถยนต์ และน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น ส่วนสินค้าที่ราคาลดลงมี 84 รายการ เช่น ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว ขนมปังปอนด์ เนื้อสุกร ไข่ไก่ ผักสด ค่ากระแสไฟฟ้า เป็นต้น ขณะที่สินค้าที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงราคามีทั้งหมด 199 รายการ
ส่วนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศที่เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.60 เป็นต้นมานั้น ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงของราคาจนเป็นที่น่ากังวล