น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ ประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อในไตรมาส 1/60 จะอยู่ที่ระดับ 1.77% ซึ่งเป็นช่วงของเงินเฟ้อขาขึ้น โดยเป็นผลมาจากปัจจัยเรื่องราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นหลัก แต่การเข้าสู่ช่วงเงินเฟ้อขาขึ้นไม่ใช่สิ่งที่น่ากังวล เพราะเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจกำลังเริ่มฟื้นตัว
อย่างไรก็ดี ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ยังคงประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั้งปีนี้ไว้ที่ระดับ 1.5-2.0% แม้บางหน่วยงานจะมีการปรับเปลี่ยนสมมติฐานอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) เพิ่มขึ้น และปรับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเพิ่มขึ้นก็ตาม
สำหรับปัจจัยสนับสนุนอัตราเงินเฟ้อในปีนี้ ได้แก่ อุปสงค์ภาคครัวเรือนเริ่มฟื้นตัวสอดคล้องกับการผลิตและรายได้เกษตร, รายได้จากการส่งออกมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น, มาตรการภาครัฐสนับสนุนกำลังซื้อสำหรับครัวเรือนรายได้น้อย และมาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงต่อเงินเฟ้อ ได้แก่ เศรษฐกิจโลกที่ยังคงฟื้นตัวอย่างช้าๆ และความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าของคู่ค้าสำคัญ ส่งผลกระทบต่อการส่งออก, ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น กระทบราคาน้ำมันเชื้อเพลิงขายปลีกในประเทศ และเงินบาทมีทิศทางอ่อนค่า ส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการแข่งขันของภาคการส่งออก และต้นทุนการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบ
น.ส.พิมพ์ชนก ระบุว่า ได้มีการปรับน้ำหนักและปีฐานการคำนวณดัชนีราคาผู้บริโภคใหม่ จากเดิมที่ใช้ปีฐาน 2554 มาเป็นปีฐาน 2558 โดยได้เริ่มใช้กับการคำนวณดัชนีราคาผู้บริโภคตั้งแต่เดือน ม.ค.60 เป็นต้นไป