นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่ เช่น บมจ. สหพัฒนพิบูล (SPC) บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ยูนิลีเวอร์ (ประเทศไทย) จำกัดนั้น ทุกรายยินดีให้ความร่วมมือผลิตสินค้าที่จะขายในโครงการ “ธงฟ้าประชารัฐ” โดยในสัปดาห์หน้า จะจัดส่งรายละเอียดสินค้าที่จะผลิตป้อนในโครงการ เช่น ชนิด และขนาดของสินค้า แบรนด์ของสินค้า เป็นต้น มาให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณา
การจัดทำโครงการธงฟ้าประชารัฐ ในช่วงเดือนเม.ย.นี้ ผู้ผลิตสินค้าที่เข้าร่วมโครงการนี้ จะสามารถผลิตและกระจายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพ ในเบื้องต้นประมาณ 20 รายการ และขายราคาถูกกว่าราคาในท้องตลาด 15-20% ไปยังร้านค้าส่ง และร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม (โชห่วย) ที่อยู่ในการส่งเสริมของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าประมาณ 20,000 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงจะกระจายไปยังตลาดชุมชม ในการส่งเสริมของกระทรวงพาณิชย์อีกราว 19,000 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับผู้บริโภคทั่วประเทศได้
”สินค้าที่จะขายในโครงการธงฟ้าประชารัฐ จะมีโลโก้ของโครงการพิมพ์บนบรรจุภัณฑ์เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับทราบ และราคาจะถูกกว่าท้องตลาด 15-20% เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชน ซึ่งรัฐจะเป็นผู้กำหนดราคาขายปลีกสู่ผู้บริโภค โดยราคาสินค้าของผู้ผลิตแต่ละรายอาจไม่เหมือนกันก็ได้ เช่น ผงซักฟอกในขนาดเท่ากัน ของผู้ผลิตรายหนึ่งอาจถุงละ 40 บาท แต่อีกรายราคา 45 บาทก็ได้ เพราะแต่ละรายอาจมีสูตร หรือส่วนผสมในการผลิตต่างกัน ซึ่งผู้บริโภคต้องเลือกซื้อเอง อย่างไรก็ตาม หากผู้ค้ารายใดขายเกินกว่าราคาที่กำหนด จะมีความผิดตามกฎหมาย” รมช.พาณิชย์ กล่าว