ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) ทั้งปี 2560 จะเพิ่มขึ้นไปที่ 2.3% โดยเป็นผลจากทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่จะปรับสูงขึ้นตามข้อตกลงของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกราคาน้ำมันว่าจะลดกำลังการผลิตน้ำมันลงรวม 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งจะส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ (Brent) เฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 54 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล รวมทั้งแนวโน้มราคาสินค้าเกษตรในประเทศที่ดีขึ้น
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ทั้งปี 2560 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปอยู่ที่ 1.0% ตามการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศที่จะได้รับแรงสนับสนุนจากกำลังซื้อภาคครัวเรือนที่จะกลับมา และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ อย่างไรก็ตาม ยังมีแรงกดดันการบริโภคหลายประการ ทั้งจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจที่ยังเติบโตช้าและไม่แน่นอน
พร้อมกันนี้ SCB EIC มองว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% ถึงแม้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2560 จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นจากระดับต่ำมาก และยังอยู่ในกรอบเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ 2.5% บวก/ลบ 1.5% และยังต้องคงอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงต่อไป
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์รายงานอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ม.ค.60 เร่งตัวขึ้นต่อเนื่องไปที่ 1.55% จากระดับ 1.13% ในเดือน ธ.ค.59 ปัจจัยหลักมาจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเฉลี่ยเดือน ม.ค.ที่ปรับตัวสูงขึ้นถึง 78% นอกจากนี้ ราคาสินค้าเกษตรที่สูงขึ้นเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้เงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้น โดยราคาผักสดขยายตัวที่ 4.7% และผลไม้สดที่ 5.1% ขณะที่ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ ยังขยายตัวได้ต่ำ เช่น เครื่องนุ่งห่ม 0.2% การตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล 0.3% การบันเทิงและการศึกษา 0.5% ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังค่อนข้างทรงตัวอยู่ที่ 0.75% จากเดือนก่อนที่ 0.74% สะท้อนว่าการบริโภคในประเทศยังอ่อนแรง ทำให้ผู้ประกอบการไม่ได้ปรับราคาสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปขึ้นมากนัก