นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนได้มอบหมายให้นายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เข้าร่วมหารือกับนาย Hiroki Mitsumata ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ JETRO เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อรายงานผลการสำรวจแนวโน้มทางเศรษฐกิจของบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นในประเทศไทยในรอบ 6 เดือนหลังของปี 2559 เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยประธาน JETRO ได้กล่าวว่า ในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2559 นั้น กิจกรรมทางเศรษฐกิจของบริษัทญี่ปุ่นอยู่ในลักษณะชะลอตัว แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2560 คาดการณ์ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของบริษัทญี่ปุ่นมีแนวโน้มสดใสและจะขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักธุรกิจญี่ปุ่นที่มีต่อสภาพแวดล้อมทางธุรกิจของประเทศไทยยังเป็นไปในทิศทางบวก
สำหรับในด้านการลงทุนนั้น จากผลการสำรวจพบว่านักธุรกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะลงทุนในอุตสาหกรรมอาหารเพิ่มมากขึ้น และยังได้มีการคาดการณ์ต่อไปอีกว่าบริษัทในอุตสาหกรรมอาหาร เคมีภัณฑ์ และอิเล็กทรอนิกส์ จะมีการส่งออกเพิ่มขึ้นในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2560 อีกด้วย
สำหรับปัจจัยที่ถือได้ว่าเป็นความท้าทายของภาคอุตสาหกรรมการผลิตนั้น ได้แก่ การเพิ่มขึ้นของค่าแรง และปัญหาเรื่องการขาดแคลนวิศวกร เป็นต้น โดยสาขาวิศวกรที่ขาดแคลนมาก ได้แก่ ด้านบริหารจัดการโรงงาน ด้านบริหารจัดการการผลิต และด้านการวิจัยและพัฒนา สำหรับสาขาอาชีพอื่นๆ ที่ขาดแคลน ได้แก่ ผู้จัดการทั่วไป พนักงานขาย (เชิงเทคนิค) และธุรการที่มีทักษะภาษาญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม นักลงทุนญี่ปุ่นยังฝากให้รัฐบาลไทยช่วยส่งเสริมมาตรการกระตุ้นทางเศรษฐกิจ เช่น การเตรียมความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน/ระบบสาธารณูปโภค ตลอดจนพัฒนาและปรับเปลี่ยนการใช้งานระบบภาษีศุลกากร เป็นต้น
กระทรวงพาณิชย์ได้กล่าวขอบคุณภาคเอกชนญี่ปุ่น ที่ให้ความสนใจและสนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจของไทยมาโดยตลอด โดยประเทศไทยอยู่ระหว่างการดำเนินนโยบายเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และมุ่งไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน รวมทั้งสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุน และยังได้ประชาสัมพันธ์นโยบาย Thailand 4.0 และ โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) พร้อมทั้งเชิญชวนให้นักลงทุนญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทยมากขึ้น อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร และอุตสาหกรรมดิจิทัล เป็นต้น
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ และ JETRO ยังมีแผนที่จะสร้างความร่วมมือกันในหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการส่งเสริมและพัฒนา SMEs ซึ่งญี่ปุ่นเองมีแผนการดำเนินงานอยู่แล้ว และการขยายความร่วมมือในห่วงโซ่มูลค่าของภูมิภาค CLMVT เพื่อให้ไทยสามารถเป็นประตูเชื่อมนักลงทุนญี่ปุ่นกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค CLMV โดยกระทรวงพาณิชย์จะเร่งประสานความร่วมมือพร้อมทั้งติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดต่อไป