พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่ มีกลุ่มบุคคล แสดงความเห็นอ้างว่า นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตามมาตรา 44 ยกเว้นใบอนุญาตนิติบุคคลให้กับบริษัทของจีนที่ออกแบบโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ส่งผลให้ฝ่ายจีนสามารถออกแบบได้เลยนั้น ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะไม่มีการใช้ ม.44 ดำเนินการในเรื่องนี้แต่อย่างใด
“โครงการรถไฟไทย-จีน ใช้กฎหมายปกติดำเนินการ โดยฝ่ายจีนยังคงต้องขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมตาม พ.ร.บ.วิศวกร พ.ศ.2542 และ พ.ร.บ.สถาปนิก พ.ศ.2543และเนื่องจากเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูงเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงที่ยังไม่เคยมีในประเทศไทย ดังนั้น ในขั้นตอนการออกแบบจึงต้องใช้วิศวกรจีนดำเนินการ โดยมีคณะทำงานจากการรถไฟแห่งประเทศไทยร่วมกำหนดรายละเอียดให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล นอกจากนี้ ฝ่ายไทยยังได้ส่งแบบสถาปัตยกรรมสถานีที่ สำนัก.นโยบายและแผนการขนส่งและจราจรได้เคยศึกษาในโครงการรถไฟความเร็วสูง กทม-นครราชสีมา ซึ่งออกแบบโดยสถาปนิกไทย ให้แก่ทางจีนเป็นต้นแบบด้วย"
พล.ท. สรรเสริญ กล่าวต่อว่า วงเงินค่าออกแบบโครงการรถไฟไทย-จีน เบื้องต้นเป็นจำนวน 1,779.97 ลบ. ไม่ใช่ 10,000 ลบ.ตามที่ มีการกล่าวอ้าง ส่วนเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการออกแบบเพื่อก่อสร้างนั้น ผู้ที่รับรองการออกแบบของฝ่ายจีนจะต้องได้รับใบอนุญาตจากสภาวิศวกรและสภาสถาปนิกไทย ซึ่งจะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่สภาวิชาชีพทั้งสองกำหนดไว้ ดังนั้น ความเห็น ของกลุ่มบุคคล ดังกล่าว เรื่องการใช้ ม.44 ทำลายโอกาสการสร้างงานให้กับคนไทย และความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยหากออกแบบโดยบริษัทจีน จึงเป็นการกล่าวอ้างที่บิดเบือนเกินความจริง
"ท่านนายกฯ ติดตามความคืบหน้าเรื่องนี้มาโดยตลอด และกำชับให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดดำเนินการในขั้นตอนต่าง ๆ โดยให้ความสำคัญกับประโยชน์ของฝ่ายไทยมากที่สุด และสอดคล้องกับมาตรฐานระดับสากล รวมถึงเน้นย้ำไม่ให้มีการทุจริตเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด"โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว