(เพิ่มเติม) ครม.มีมติขยายเวลายกเว้นค่าธรรมเนียมขอวีซ่านทท.ต่างชาติ 21 ประเทศ อีก 6 เดือน

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday February 7, 2017 18:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้ขยายเวลายกเว้นค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าของนักท่องเที่ยวต่างชาติอีก 6 เดือน เพื่อดึงดูดชาวต่างชาติ ซึ่งเสนอโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเห็นว่าการดำเนินการมาตรการนี้ในช่วงที่ผ่านมาเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค.59- 28 ก.พ.60 ช่วยดึงดูดให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยมากขึ้น โดยเพิ่มขึ้น 12.40% สิ่งที่รัฐบาลจะได้กลับมาคือภาษีจากการใช้จ่าย

"จึงขยายเวลาต่อไปอีก 6 เดือน แต่ก็มีข้อสังเกตจากหลายฝ่ายว่าการที่คิดว่านักท่องเที่ยวจะเยอะขึ้น ภาษี VAT ที่รัฐจะได้เยอะขึ้น เศรษฐกิจสะพัด ภาคบริการภาคธุรกิจจะดำเนินธุรกิจได้ดีขึ้น แต่เงินรายได้อันเกิดจากค่าขอทำวีซ่าจะหาย และเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศจะมีภาระมากขึ้นจากการต้องทำสัญลักษณ์ต่างๆ แต่ไม่มีรายได้ ดังนั้นจึงเห็นชอบให้ขยายเวลาการยกเว้นค่าธรรมเนียมตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯเสนอ แต่ท่านนายกฯขอให้รับข้อสังเกตจากทุกฝ่ายเอาไปพิจารณาว่าจะทำอย่างไรเพื่อจะหาเงินมาชดเชยเงินรายได้ของกระทรวงการต่างประเทศที่ขาดหายไป ซึ่งประมาณการว่าถ้าดำเนินการครบ 6 เดือน กระทรวงการต่างประเทศจะสูญเสียรายได้ไปประมาณกว่า 7,500 ล้านบาท" โฆษกฯ ระบุ

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลามาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยการยกเว้นค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา (Visa) ณ สถานทูตหรือสถานกงสุลไทย และปรับลดค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival: VoA) เป็นการชั่วคราว สำหรับ 21 ประเทศ เพิ่มเติม 6 เดือน (1 มี.ค.60 – 31 ส.ค.60) ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอ โดยให้ดำเนินการ 1.ยกเว้นค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา (Visa) ณ สถานทูตหรือสถานกงสุลไทย จำนวน 1,000 บาทต่อคน เป็นการชั่วคราว 2.ปรับลดค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (VoA) ให้แก่ชาวต่างชาติ โดยปรับค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราที่ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง ใช้ได้ครั้งเดียว เป็นจำนวน 1,000 บาทต่อคน เป็นการชั่วคราว ซึ่งเท่ากับค่าธรรมเนียมเดิมก่อนที่กฎกระทรวง ฉบับที่ 30 (พ.ศ.2559) มีผลบังคับใช้ (27 ก.ย.59) โดยให้มีผลเป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – วันที่ 31 สิงหาคม 2560 และกำหนดให้ใช้ได้สำหรับชาวต่างชาติ จำนวน 21 ประเทศ ได้แก่ อันดอร์รา บัลแกเรีย ภูฏาน จีน ไซปรัส เอธิโอเปีย อินเดีย คาซัคสถาน ลัตเวีย ลิทัวเนีย มัลดีฟส์ มอลตา มอริเชียส โรมาเนีย ซานมาริโน ซาอุดิอาระเบีย ไต้หวัน ยูเครน อุซเบกิสถาน ปาปัวนิวกีนี และหมู่เกาะฟิจิ ซึ่งเป็นสัญชาติที่สามารถขอรับการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมืองเท่านั้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ