พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เร่งรัดการพัฒนาพื้นที่ ส.ป.ก.ที่ยึดคืนได้ตามคำสั่ง หน.คสช.ที่ 36/2559 สั่ง ณ วันที่ 5 กรกฎาคม 2559 โดยได้ประสานกับกองทัพบก (ทบ.) เพื่อขอรับการสนับสนุนจากหน่วยทหารช่างเข้าดำเนินการในระยะที่ 1 เนื้อที่ 30,742 ไร่ ซึ่งเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้อนุมัติให้หน่วยทหารช่างเข้าดำเนินการแล้ว ขณะนี้หน่วยทหารช่างของ ทบ.ได้ทยอยเคลื่อนย้ายเครื่องมือช่างเข้าพื้นที่แปลงตำบลหนองม่วง อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ซึ่งยึดคืนได้จากบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เนื้อที่ประมาณ 719 ไร่ ขณะเดียวกัน ส.ป.ก.ได้จัดเครื่องมือมาร่วมบูรณาการทำงานด้วย
ด้านนายสมปอง อินทร์ทอง เลขาธิการ ส.ป.ก.กล่าวว่า ผลการดำเนินการตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายตามคำสั่งที่ 36/2559 ในภาพรวมของจังหวัดสระแก้ว จำนวน 78 แปลง เนื้อที่ 87,257 ไร่ พบว่า มีผู้ครอบครองเดิมที่แสดงสิทธิตามประมวลกฎหมายที่ดิน เนื้อที่ 20,214 ไร่ พื้นที่ที่ยึดคืนได้ เนื้อที่ 67,043 ไร่ ซึ่งจะพัฒนาปรับปรุงที่ดินให้มีความพร้อมเพื่อส่งมอบให้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) นำไปจัดที่ดินให้เกษตรกรผู้ยากไร้ในรูปแบบสหกรณ์การเกษตร จำนวน 12 แปลง เนื้อที่ 4,202 ไร่ สำหรับแปลง No 2879 มีเนื้อที่ 1,340 ไร่ มีพื้นที่ยึดคืนเนื้อที่ 719 ไร่ ที่ดินแปลงนี้เดิมมีการปลูกอ้อยเป็นจำนวนมาก รองลงมาปลูกมันสำปะหลัง และยูคาลิปตัส
สำหรับแนวทางการพัฒนาพื้นที่จะเน้นการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมการทหารช่างเข้ามาปรับพื้นที่ กรมชลประทานและกรมทรัพยากรน้ำบาดาลจะเข้ามาพัฒนาแหล่งน้ำ กรมปศุสัตว์เตรียมการส่งเสริมด้านปศุสัตว์ กรมส่งเสริมการเกษตรจะเข้ามาส่งเสริมการทำเกษตรผสมผสาน เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ระหว่างรอผลผลิต กรมส่งเสริมสหกรณ์จะเข้ามาส่งเสริมการจัดตั้งสหกรณ์ รวมถึง คทช.จะเข้ามาดูแลเพิ่มเติมให้สมบูรณ์ในเรื่องที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ส.ป.ก.ได้ดำเนินการปูผังแบ่งแปลงไว้แล้ว ประกอบด้วย แปลงที่ดินทำกิน 63 แปลง เนื้อที่ประมาณ 313 ไร่ แปลงที่อยู่อาศัย 63 แปลง เนื้อที่ประมาณ 66 ไร่ พื้นที่ที่ดินแปลงรวม 2 แปลง เนื้อที่ประมาณ 92 ไร่ พื้นที่ส่วนกลาง 4 แปลง เนื้อที่ประมาณ 122 ไร่ พื้นที่ก่อสร้างถนนและแหล่งน้ำ เนื้อที่ประมาณ 126 ไร่ ซึ่งคาดว่าจะจัดสรรที่ดินให้เกษตรกรได้แล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน 2560 เพื่อให้เกษตรกรเริ่มเพาะปลูกได้ทันฤดูฝน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเหมาะสมที่จะปลูกอ้อย(S1) ปลูกสับปะรด (S1) และปลูกมันสำปะหลัง (S2)
นอกจากนี้พื้นที่แปลง No 2879 มีจุดเด่น คือ อยู่ติดถนนเส้นหลัก ส.ป.ก.จะส่งเสริมให้มีการจัดตั้งตลาดนัดชุมชน เพื่อนำผลผลิตที่มีคุณภาพของเกษตรกรมาวางจำหน่ายให้แก่ประชาชนทั่วไป เพื่อเป็นการยกระดับการทำเกษตรให้แก่เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน