นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ติดตามปัญหาผลผลิตปาล์มน้ำมันใน จ.สุราษฎร์ธานี ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมว่า พื้นที่เพาะปลูกปาล์มน้ำมันได้รับความเสียหายพอสมควร โดยในภาคใต้มีพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันประมาณ 4 ล้านไร่ เบื้องต้นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประเมินว่าทุกพื้นที่ได้รับผลกระทบเฉลี่ย 10-13% โดยใน จ.สุราษฎร์ธานี มีพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 1.3 ล้านไร่ ได้รับความเสียหายประมาณ 130,000 ไร่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นปาล์มอายุ 3-5 ปี
"ตอนนี้ความเสียหายยังประเมินเป็นมูลค่าที่ชัดเจนไม่ได้ เพราะพื้นที่เพาะปลูกบางแห่งยังเข้าพื้นที่ไม่ได้ ส่วนที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ปกติมีพื้นที่เพาะปลูก 1.3 ล้านไร่ ให้ผลผลิตเฉลี่ยปีละ 3 ล้านตัน ปีนี้พื้นที่เสียหายไปส่วนหนึ่ง คาดว่าจะกระทบกับการผลิตบ้าง" นายสนธิรัตน์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม คาดว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นจะไม่กระทบต่อราคาน้ำมันปาล์มขวด เนื่องจากขณะนี้ไทยมีสต๊อกปาล์มน้ำมันดิบสูงถึง 200,000 ตัน ประกอบกับผลผลิตปาล์มสดที่กำลังจะออกสู่ตลาดในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย.นี้ ส่วนราคารับซื้อผลปาล์มถือว่าเป็นไปตามกลไกตลาด ที่ผลผลิตน้อยราคาจะปรับขึ้น ปัจจุบันราคารับซื้ออยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 6.20 บาท เพิ่มจากช่วงปกติที่มีกก.ละประมาณ 5 บาท
รมช.พาณิชย์ กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในติดตามสถานการณ์และรวบรวมปัญหาปาล์มน้ำมันทั้งระบบ ทั้งเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และไม่ได้รับผลกระทบ เพื่อรวบรวมปัญหาบริหารจัดการผลผลิตปาล์ม และหาแนวทางให้เพียงพอต่อความต้องการและมีประสิทธิภาพ สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ อีกทั้งต้องการทำให้คุณภาพปาล์มน้ำมันดี และเกษตรกรขายได้ราคาสูงขึ้น นอกจากนี้ยังสั่งการให้ศึกษาแนวทางการผลิตของมาเลเซียเพื่อนำมาปรับใช้กับไทย หลังพบว่ามาเลเซียมีการบริหารจัดการซื้อปาล์มน้ำมันในเปอร์เซ็นต์ที่สูง