นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด แถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) 489 คันว่า มีความพยายามจะให้มีการล้มประมูลครั้งนี้ ทั้งที่ บริษัทฯเสนอราคาที่ถูกที่สุดในประวัติศาสตร์ มีกระบวนการถึงขั้นปลอมเอกสารของเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ถือว่าไม่ปกติ และยังมีการชี้นำให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)ยกเลิกสัญญา ในขณะที่อยู่ในกระบวนการสืบหาข้อเท็จจริง
สำหรับกรณีที่บริษัทฯ ตรวจพบการแก้ไขข้อความใน Remark ของเอกสารใบขนสินค้าขาเข้า และได้แจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว กรณีปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มาตรา157 ล่าสุดวันที่ 10 ก.พ. ศาลอาญาได้รับฟ้องและนัดไต่สวนในวันที่ 24 เม.ย. 60 และเห็นว่า เอกสารที่มีการแก้ไข โดยเจ้าหน้าที่พิมพ์ข้อความ แต่ไม่ได้ลงนามกำกับ ทำให้เกิดความเข้าใจว่า รถเมล์ NGV มีถิ่นกำเนิดจากจีนตามที่กรมศุลฯกล่าวหาและทำให้ ขสมก.ไม่รับมอบรถทำให้บริษัทเสียหาย จึงฟ้องศาลเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม
"มีคนบางกลุ่มพยายามกล่าวหาบริษัทฯ เพื่อให้ยกเลิกสัญญา ทั้งที่การประมูลโปร่งใส ขสมก.กำหนดเงื่อนไขรถไว้อย่างไร บริษัทฯนำรถมาส่งถูกต้อง...ต้องช่วยกันสืบ ต้องดูว่าใครได้ประโยชน์ที่มีการล้มประมูลครั้งนี้ เพราะมีกระบวนการลงทุนถึงขั้นปลอมเอกสารของเจ้าหน้าที่กรมศุลฯ ถือว่าไม่ปกติ และมีการชี้นำให้ขสมก.ยกเลิกสัญญา ในขณะที่อยู่ในกระบวนการสืบหาข้อเท็จจริง"
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสือบอกยกเลิกสัญญาจากขสมก. ซึ่งขสมก.มีหน้าที่ตรวจรับรถ โดยขณะนี้ได้จดทะเบียนแล้ว 392 คัน โดยส่งมอบให้ขสมก.แล้ว 390 คัน ที่ผ่านมาขสมก.ไม่มีท่าทีปฎิเสธว่ามีข้อสงสัยหรือไม่รับรถ ดังนั้นหากมีการยกเลิกสัญญาต้องดูว่าใช้เหตุผลใดเป็นข้ออ้าง เพราะข้อสงสัยที่ยังไม่ได้มีการพิสูจน์ ซึ่งไม่ยุติธรรม
"ถ้ายกเลิกสัญญาเพราะความผิดของบริษัท ก็ยอมรับ แต่ถ้าเป็นผู้ซื้อผิดไม่ทำตามสัญญา บริษัทฯต้องเรียกร้องตามสิทธิ์"