นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า จากรายงานล่าสุดของกรมการท่องเที่ยว พบว่าตั้งแต่ 1 ม.ค.60 จนถึงปัจจุบันมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสม 4.55 ล้านคน ขยายตัว 3.67% ก่อให้เกิดรายได้ 2.40 แสนล้านบาท ขยายตัว 6.99% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวที่มีจำนวนสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน มาเลเซีย รัสเซีย เกาหลี และญี่ปุ่น รายได้จากนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน รัสเซีย สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย และเกาหลี
นางกอบกาญจน์ กล่าวว่า ได้เร่งเดินหน้าสร้างการท่องเที่ยวไทยให้เป็นศูนย์กลาง 5 อย่างในด้าน ประกอบด้วย 1.การท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sports Tourism) 2.การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical & Wellness) 3.การจัดงานแต่งงาน (Wedding & Romance) 4.การท่องเที่ยวทางน้ำ (Maritime Tourism) และ 5.การท่องเที่ยวเชื่อมโยง (ASEAN Connect)
โดยขณะนี้มีความชัดเจนมากขึ้นว่าไทยสามารถใช้การท่องเที่ยวเชิงกีฬามาดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเล่นกีฬากันมากขึ้น และนักกีฬาต่างชาติที่มาร่วมแข่งขันอยู่ท่องเที่ยวพำนักต่อและใช้จ่ายมากขึ้น เห็นได้จากการแข่งขันวิ่งมาราธอนรายการสำคัญ เช่น เชียงใหม่มาราธอน มีผู้เข้าร่วมกว่า 11,000 คน เทียบจากปีที่แล้ว 6,200 คน เพิ่มขึ้น 78 % โดยมีนักวิ่งนานาชาติที่เข้าร่วมการแข่งขันในปีนี้รวม 53 ประเทศ
ขณะที่ขอนแก่นมาราธอน จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 14 มีจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่า 36,425 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 70 % ในจำนวนนี้ มีต่างชาติเข้าร่วมประมาณ 47 ชาติ จำนวน 351 คน อันดับหนึ่งเป็นญี่ปุ่น 49 คน รองลงมาเป็นจีน 40 คน สหรัฐ 22 คน และมี ทูตจาก 5 ประเทศ มาร่วมงาน เอกอัครราชทูต สวีเดน, ออสเตรีย, นิวซีแลนด์ และไอร์แลนด์ ร่วมวิ่ง Half Marathon และ อัครทูตอิสราเอล วิ่งมินิมาราธอน และล่าสุดกรุงเทพมาราธอน มีคนร่วมแข่งขันกว่า 37,000 คน และมีต่างชาติเข้าร่วม ประมาณ 3,000 คน จาก 60 ประเทศ
"เราวางกลยุทธ์สร้างไทยเป็นศูนย์กลางด้านกีฬา (Sports Hub) โดยเน้นการจัดแข่งขันกีฬา Mega Event, World & International Games, Local Event นอกจากนี้นักท่องเที่ยวที่สนใจการออกกำลังกายสามารถมาร่วมกิจกรรมกีฬาได้ตลอดทั้งปี เช่น ปั่นจักรยานท่องเที่ยวตามภูมิภาคต่างๆ ของไทยอีกทั้งได้ส่งเสริมให้มีสถานที่เก็บตัวฝึกซ้อมกีฬาหลากหลายประเภทเพื่อเป็น Regional Hub ในอาเซียน เพื่อสร้างให้ไทยเป็น Sports Dream Destination
รมว.ท่องเที่ยว เปิดเผยว่า ได้ทำงานร่วมกันทั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและการกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sports Tourism) ในงานส่งเสริมการท่องเที่ยวใหญ่ที่สุดในโลกที่เบอร์ลิน เยอรมนี (ITB Berlin 2017) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-12 มี.ค. นอกจากนี้ ได้เดินทางไปขยายฐานตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวันที่ 8-9 ก.พ. เดินไปยังสาธารณรัฐอิหร่าน เพื่อนำเสนอการท่องเที่ยวไทยในงานส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง และได้หารือกับรองอธิบดีกรมการท่องเที่ยวของอิหร่าน เพื่อเตรียมลงนามความร่วมมือด้านท่องเที่ยวและกีฬา โดยไทยเตรียมนำเสนอความพร้อมของสถานที่เล่นกีฬาและการ เก็บตัวฝึกซ้อมนักกีฬา โดยเฉพาะนักกีฬาหญิงจากอิหร่านต่อไป
ปัจจุบันมีชาวอิหร่านมาเที่ยวไทยกว่า 120,000 คน ขยายตัว 33% และเมื่อปลายปี 2559 ที่ผ่านมาการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เชิญเซเลบริตี้ 6 คน นำโดย บาห์ราม ราดาน นักแสดงชายที่มีชื่อเสียงที่สุดในอิหร่านเจ้าของฉายาแบรด พิตต์ แห่งอิหร่าน มาเที่ยวเชียงใหม่ เชียงรายและกรุงเทพ จัดทำวีดีโอแพร่ภาพไปในอิหร่านคาดว่าจะมีผลทำให้นักท่องเที่ยวอิหร่านตามรอยดาราดังมากขึ้นปีนี้ตั้งเป้าตลาดอิหร่านเติบโต 10-15% และได้มีความเป็นไปได้ในการเปิดเที่ยวบินใหม่ของสายการบินมะหานแอร์ จากเตหะราน มายังภูเก็ต สัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน เริ่มเดือนมี.ค.นี้
นางกอบกาญจน์ กล่าวต่อไปว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวและกีฬาอย่างต่อเนื่องกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับสำนักพิมพ์ Mainichi และสถานีโทรทัศน์ RKB แห่งประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา จัดกิจกรรมระดับ International Games การแข่งขันวิ่งผลัด "อยุธยา คิซูน่า เอกิเดง 2017" (AYUTTHAYA KIZUNA EKIDEN 2017) ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 130 ปีความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น โดยจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 12 มี.ค. ณ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
ขณะนี้บทบาทของกระทรวงการท่องเที่ยวมีหน้าที่ในการส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวกระจายรายได้ และให้ความสำคัญอย่างมากต่อการดูแลและเยียวยาวแหล่งชุมชนและแหล่งท่องเที่ยวที่ประสบอุทกภัยเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยผลจากการที่ลงไป จ.ชุมพร เมื่อวันอาทิตย์พร้อมกับนักท่องเที่ยวฝรั่งเศส และเยอรมัน เพื่อไปร่วมล่องแพในงานงานเทศกาลล่องแพพะโต๊ะเชิงอนุรักษ์ ซึ่งเป็นแพที่ชาวบ้านหลายครัวเรือนนำมาให้บริการนักท่องเที่ยวที่ไปด้วยกันได้ลิ้มลองอาหารพื้นเมือง สัมผัสวิถีชีวิตของชาวอำเภอพะโต๊ะ (Local Exerience) นอกจากนี้ ยังมีนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางมาจากจังหวัดอื่นๆ เที่ยวข้ามภาคมาร่วมงานจำนวนมากช่วยให้เกิดการกระจายรายได้ในชุมชน