นายเคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผุ้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ กล่าวในช่วงเสวนา "อนาคตไทยในภูมิภาค" โดยมองว่า แนวโน้มยอดขายรถยนต์ในประเทศยังมีโอกาสเติบโตได้มากขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา หลังจากได้สิ้นสุดโครงการรถยนต์คันแรกไปแล้ว ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความต้องการรถยนต์รุ่นใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ในขณะที่ค่ายรถยนต์ต่างผลิตรถรุ่นใหม่ออกมาเพื่อกระตุ้นยอดขาย นายทานาดะ มองว่า การจะกระตุ้นยอดขายรถยนต์ในประเทศเพิ่มขึ้นนั้น ค่ายรถต้องหันมาให้ความสนใจกับตลาดรถเล็ก ที่สามารถประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งกระแสสังคมต่างหันมาให้ความสนใจกับเรื่องการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น หากเปรียบเทียบไทยกับอินโดนีเซียในเรื่องฐานการผลิตรถยนต์ นายทานาดะ มองว่าอินโดฯ มีโอกาสจะนำหน้าไทยในอีก 10 ปีข้างหน้า เนื่องจากปริมาณความต้องการใช้รถยนต์ในอินโดฯ เติบโตตามจำนวนประชากรที่เพิ่มสูงขึ้น แม้สภาพการจราจรจะเป็นปัญหาใหญ่ในกรุงจาการ์ต้าที่เป็นเมืองหลวงของอินโดฯ ก็ตาม แต่ปริมาณการซื้อรถยนต์ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ในด้านการผลิตชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ของไทยยังมีข้อได้เปรียบมากกว่าอินโดฯ ทั้งในเรื่องคุณภาพที่ดีกว่าและราคาถูกกว่า เนื่องจากในไทยมีการทำวิจัยและพัฒนา และเป็นแรงงานที่มีฝีมือมากกว่าของอินโดฯ นายทานาดะ กล่าวว่า ขณะนี้ทางโตโยต้ากำลังติดตามนโยบายของรัฐบาลในด้านภาษีและกฎระเบียบต่างๆ ที่จะเอื้ออำนวยให้โตโยต้าเข้ามาขยายการลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งหากเป็นนโยบายที่มีความน่าสนใจก็จะเข้ามาลงทุนเพิ่มเติม และมองว่าประเทศไทยยังเป็นฐานการผลิตหลักที่สำคัญของโตโยต้าในภูมิภาคนี้