พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รองประธาน กสทช.) และประธานกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) แถลงทิศทางและภาพรวมตลาดทีวีดิจิตอลว่า ปี 59 คนไทยยังรับชมโทรทัศน์ผ่านระบบดาวเทียมมากที่สุด 55% รองลงมาเป็นการชมผ่านดิจิตอลทีวี 30% รับชมผ่านระบบอนาล็อก 9% รับชมผ่านเคเบิลทีวี 6% โดยมีสัดส่วนผู้ชมช่องรายการเดิมลดลงตลอดทั้งปี จากเดิมเดือน ม.ค.59 อยู่ที่ 61.1% ลดลงเหลือ 46.8% สวนทางกับสัดส่วนผู้ชมรายการจากช่องทีวีดิจิตอลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเดือน ม.ค.59 อยู่ที่ 38.9% เพิ่มขึ้นเป็น 53.2% ในเดือน ธ.ค.59 ขณะที่การขยายโครงข่ายทีวีดิจิตอลครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ 91.7%
ทั้งนี้ คาดว่าปี 60 จะเห็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมโทรทัศน์เติบโตมากขึ้น ทางธุรกิจที่ใช้เพื่อรับชมเนื้อหาโทรทัศน์ทีวี (OTT Over The Top), โฮมช้อปปิ้ง และโมบายทีวี โดยบริการ OTT มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นและกลายเป็นแพลตฟอร์มสำคัญในการนำเสนอคอนเทนท์สร้างความท้าทายให้กับ กสทช. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแล ในกรณีของฟรีทีวีก็สามารถเชื่อมโยงคอนเทนท์กับอินเตอร์เน็ตเพื่อสร้างความสะดวกในการรับชมให้กับประชาชน ส่วนทีวีบอกรับสมาชิกจะต้องปรับปรุงคอนเทนท์ให้มีความน่าสนใจในราคาที่เหมาะสม
"กรณีของฟรีทีวีขณะนี้ก็สามารถเชื่อมโยงคอนเทนต์ที่ออกอากาศทางโทรทัศน์กับแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ต (Cross Platform) เพื่อสร้างความสะดวกในการรับชมให้แก่ประชาชน ส่วนในกรณีของเพย์ทีวีก็ต้องปรับปรุงด้านคอนเทนต์ให้มีความน่าสนใจในราคาที่เหมาะสม นอกจากนี้การกำกับดูแลที่ยังมีความแตกต่างระหว่างฟรีทีวีและ OTT สะท้อนความจำเป็นในการสร้างโมเดลการอนุญาตที่มีความชัดเจนต่อการให้บริการประเภทดังกล่าวด้วย" พ.อ.นที กล่าว
สำหรับการกำกับดูแลความแตกต่างกันระหว่างฟรีทีวีกับ OTT สะท้อนความจำเป็นในการสร้างโมเดลการอนุญาตความชัดเจนต่อการให้บริการ
"ทีวีโฮมช้อบปิ้งเป็นธุรกิจที่จะเห็นการเติบโตที่ชัดเจนและมีโอกาสขยายตัวได้มากโดยจะเห็นผู้เล่นรายใหม่สนใจเข้าสู่ตลาดมากขึ้น ปัจจุบันผู้ประกอบการทีวีโฮมช้อปปิ้งเลือกที่จะนำสินค้าและบริการมาโฆษณาผ่านฟรีทีวีและดิจิตอลทีวีทำให้ผู้ประกอบการมีรายได้จากการเช่าเวลาออกอากาศเพื่อขายสินค้า" พ.อ.นที กล่าว
อย่างไรก็ดี ในแง่กฏกติกาการกำกับต้องมีความชัดเจนเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ ส่วนโมบายทีวีจะเห็นแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องโดยมีจำนวนโมบายทีวีที่ขายในท้องตลาดประมาณ 1.53 ล้านเครื่อง การเติบโตที่เกิดขึ้นมาจากหลายปัจจัยโดยเฉพาะความต้องการของผู้บริโภคและการขยายโครงข่ายและสัญญาณทีวีดิจิตอลที่ครอบคลุมมากขึ้น
สำหรับพฤติกรรมการรับชมโทรทัศน์อันดับหนึ่งยังเป็นการรับชมช่องรายการเดิม โดยปี 59 มีการรับชมช่องรายการเดิมลดลงอยู่ที่ 128 นาที/คน/วัน จากปี 58 มีการรับชม 148 นาที/คน/วัน อันดับที่ 2 ช่องทีวีดิจิตอล ปี 59 มีการรับชมเพิ่มขึ้น 123 นาที/คน/วัน จากเดิม ปี 58 มีการรับชม 94 นาที/คน/วัน
ประธาน กสท. กล่าวว่า ทิศทางอุตสาหกรรมโทรทัศน์ในปี 2560 ที่เป็นบวกจากการออกมาตรการสำคัญต่างๆ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการประกอบกิจการของผู้ประกอบการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล (ดิจิตอลทีวี) ตามมาตรา 44 ทั้งการขยายระยะเวลาการชำระค่าใบอนุญาต และสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตามประกาศ Must Carry เป็นระยะเวลา 3 ปี จะส่งผลให้ผู้ประกอบการแต่ละรายมีค่าใช้จ่ายลดลงชัดเจนในปีนี้ และมีเงินทุนหมุนเวียนในอุตสาหกรรมเพิ่มสูงถึง 12,615 ล้านบาท เฉพาะในปี 2560 ผู้ประกอบการจะมีเงินลงทุนหมุนเวียนเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 4,984 ล้านบาท ส่งผลให้แต่ละช่องสามารถนำเงินมาลงทุนพัฒนาช่องรายการ และลงทุนคอนเทนต์ได้มากขึ้น
ขณะที่การเติบโตของ GDP และแนวโน้มการบริโภคของประชาชนในปี 2559 เป็นไปในทิศทางบวก จึงสามารถคาดการณ์ได้ว่า เพื่อกระตุ้นการบริโภคของประชาชนในปี 2560 บริษัทผู้ผลิตสินค้าและบริการจะใช้งบโฆษณาทางโทรทัศน์มากขึ้น ขณะเดียวกันการเคลื่อนย้ายทุนจากกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่เข้าสู่อุตสาหกรรมโทรทัศน์ผ่านการซื้อหุ้นในช่อง ดิจิตอลทีวี เช่น ช่องวัน และช่องอมรินทร์ทีวี จะช่วยให้ช่องดิจิตอลทีวีมีความแข็งแกร่งทางการเงิน ส่งผลต่อภาพรวมอุตสาหกรรมโทรทัศน์ โดยเฉพาะการอัดฉีดเม็ดเงินโฆษณา