นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังหารือกับ นางอีต โซเฟีย เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ที่เข้าเยี่ยมคารวะในโอกาสพ้นจากตำแหน่งว่า ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงการที่กัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee-JTC) ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 ในระหว่างวันที่ 13-14 มีนาคม 2560 ณ กรุงพนมเปญ ก่อนการเดินทางเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งคณะนักธุรกิจชั้นแนวหน้าของไทย ในระหว่างวันที่ 15-17 มีนาคม 2560
โดยในการประชุม JTC ทั้งสองฝ่ายจะมีการหารือถึงแนวทางขยายโอกาสทางการค้าการลงทุนระหว่างกัน โดยเฉพาะการค้าชายแดน การอำนวยความสะดวกทางการค้า การหารือข้อเสนอของกัมพูชาในการจัดทำความตกลงว่าด้วยการขนส่งสินค้าผ่านแดน และการเตรียมการจัดงาน CLMVT Forum 2017 ที่กัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพในช่วงเดือนกันยายนปีนี้
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า เอกอัครราชทูตกัมพูชาฯ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับไทยและได้ส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าระหว่างไทยกับกัมพูชามาอย่างต่อเนื่อง โดยจะกลับไปรับตำแหน่งในกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา ซึ่งจะยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่ายแน่นแฟ้นมากขึ้น โดยไทยและกัมพูชาเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การค้า วัฒนธรรม และประชาชนมายาวนาน
"ทั้งสองประเทศพร้อมที่จะสานต่อความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ โดยเห็นว่าไทยกับกัมพูชายังมีโอกาสที่จะพัฒนาความร่วมมืออีกหลายด้าน อาทิ การเชื่อมโยงห่วงโซ่มูลค่าในธุรกิจเครื่องประดับและอัญมณี ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ความร่วมมือในด้านวัฒนธรรมและงานหัตถกรรม" นางอภิรดี กล่าว
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่า ความสัมพันธ์ระหว่างภาคธุรกิจไทยกับกัมพูชาอยู่ในระดับที่ดีมาก โดยมีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดอย่างต่อเนื่อง ในการนี้ฝ่ายกัมพูชาได้ขอบคุณฝ่ายไทยที่สนับสนุนให้ภาคธุรกิจกัมพูชาเข้าร่วมงานแสดงสินค้า Bangkok Gems and Jewelry Fair และจัดโครงการ Young Entrepreneur Network Development Program (YEN-D) ซึ่งช่วยสร้างเครือข่ายการทำธุรกิจระหว่างนักธุรกิจจากทั้งสองประเทศ
ทั้งนี้ในปี 2559 กัมพูชาเป็นคู่ค้าอันดับ 8 ของไทยในอาเซียน สองฝ่ายมีมูลค่าการค้ารวม 5,595.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แบ่งเป็นมูลค่าการส่งออก 4,659.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมูลค่าการนำเข้า 936.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยไทยเป็นฝ่ายเกินดุล 3,722.69 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูปอัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องดื่ม น้ำตาลทราย และรถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ ขณะที่สินค้านำเข้าหลัก ได้แก่ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ ผักและผลไม้ ลวดและสายเคเบิล สินแร่ และเสื้อผ้าสำเร็จรูป