นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในวันนี้ กรมฯ ได้เปิดให้เอกชนผู้สนใจที่ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้นทั้งหมด 73 รายเข้ายื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวสารในสต็อกของรัฐเป็นการทั่วไป ครั้งที่ 1/2560 ซึ่งปรากฎว่ามีผู้สนใจมายื่นซอง จำนวน 66 ราย ซึ่งมีผู้เสนอราคาซื้อสูงสุด 48 ราย ใน 185 คลัง ปริมาณ 2.03 ล้านตัน คิดเป็น 70.98% ของปริมาณที่เปิดประมูล 2.86 ล้านตัน โดยมูลค่าที่เสนอซื้อรวมประมาณ 18,582.14 ล้านบาท
สำหรับชนิดข้าวที่มีผู้เสนอราคาซื้อมากที่สุดเป็น ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ปริมาณ 745,236.54 ตัน คิดเป็น 26.05% รองลงมาได้แก่ ข้าวขาว 5% ปริมาณ 479,761 ตัน คิดเป็น 16.75%
ทั้งนี้ กรมฯ จะดำเนินการประมวลผลเสนอให้คณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสต็อกของรัฐพิจารณาก่อนนำเสนอประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว และประธานกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) พิจารณาอนุมัติผลการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐต่อไป
อนึ่ง เมื่อต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน นบข. ได้เห็นชอบการออกประกาศจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเป็นการทั่วไป ครั้งที่ 1/2560 ปริมาณ 2.87 ล้านตัน จำนวน 274 คลัง
ต่อมาเมื่อวันที่ 14 ก.พ.60 ประธานกรรมการ นบข. ได้เห็นชอบให้กรมฯ ในฐานะประธานคณะทำงานฯ ออกประกาศระงับการจำหน่ายข้าวสารในคลังสามสิงห์ หลัง 4 จังหวัดนครสวรรค์ เฉพาะชนิดข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 จำนวน 4 กอง ปริมาณ 4,784.59 ตัน เนื่องจากข้าวดังกล่าวติดภาระผูกพันตามข้อมูลที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) แจ้งมา โดยให้คงจำหน่ายเฉพาะปลายข้าวปทุมธานี ปริมาณ 365.33 ตันในคลังดังกล่าว
ดังนั้น จึงคงเหลือข้าวที่จะนำออกมาเปิดประมูลในครั้งนี้ทั้งหมด ปริมาณ 2.86 ล้านตัน จำนวน 274 คลัง เป็นข้าว 17 ชนิด ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ข้าวหอมจังหวัด ข้าวขาว 5% ข้าวปทุมธานี 5% ข้าวขาว 10% ข้าวขาว 15% ข้าวขาว 25%เลิศ ข้าวปทุมธานี ข้าวเหนียวขาว 10% ข้าวท่อนหอมมะลิ ข้าวท่อนหอมจังหวัด ข้าวท่อนปทุมธานี ปลายข้าวหอมมะลิ ปลายข้าวหอมจังหวัด ปลายข้าวปทุมธานี ปลายข้าว A1 เลิศ และปลายข้าว A1