นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.02 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก ช่วงเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 34.98 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.98-35.04 บาท/ดอลลาร์ โดยนักลงทุน รอดูปัจจัยใหม่จากต่างประเทศ
"บาทอ่อนค่าลงมาหลังสภาพัฒน์แถลงตัวเลข Q4/59 ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 34.95-35.05 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจ้ยสำคัญ
- เย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ 113.14 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 112.89 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.0615 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0607 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,578.47 จุด เพิ่มขึ้น 0.63 จุด, +0.04% มูลค่าการซื้อขาย 38,810.40 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 276.58 ล้านบาท (SET+MAI)
- สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ
(GDP) ไตรมาส 4/59 ขยายตัวได้ 3% จากที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 3.2-3.3% ขณะที่ทั้งปี 59 ขยายตัวได้ในอัตรา 3.2% ตาม
คาด และยังคงคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยปี 60 ที่ระดับ 3-4%
- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เผยตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 4/59 ที่เติบโต 3% และ ปี 59 เติบโต
3.2% ตามที่สภาพัฒน์แถลงเป็นที่น่าพอใจ เพราะถือว่าเป็นการเติบโตที่เกิดขึ้นในช่วงเศรษฐกิจโลกไม่ดี ประเทศต่างๆ เติบโตช้า
รวมถึงสินค้าเกษตรก็อยู่ในช่วงตกต่ำ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้รัฐบาลจะต้องทำงานเต็มที่เพื่อประคับประคองเศรษฐกิจให้เติบโตตาม
เป้าหมาย ซึ่งหวังว่าปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 3.5-4% และน่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลได้ผลักดันโครงการต่างๆ ออกมา และ
แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้น
- ปลัดกระทรวงการคลัง เผยตัวเลขการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/59 ที่สำนักงานคณะกรรมการ
พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงโต 3% ถือว่าเศรษฐกิจไทยชะลอตัวไม่มาก และทั้งปีที่ขยายตัว
3.2% ใกล้เคียงกับที่กระทรวงการคลังคาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัวได้ 3.3% ส่วนภาวะเศรษฐกิจในปี 60 สศช.คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจ
จะขยายตัวได้ 3-4% ใกล้เคียงกับที่กระทรวงการคลังคาดการณ์ไว้ที่ 3.1-4.1% หรือค่ากลางที่ 3.6%
- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ตั้งเป้าหมายสำหรับการส่งออกของไทยในปี 60 ขยายตัวราว 5% เนื่อง
จากเห็นว่าประเทศคู่ค้าหลักที่สำคัญมีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นกว่าปีก่อน รวมทั้งราคาสินค้าเกษตรในปีนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้น
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 1/60 จะเติบโตได้ใกล้เคียงกับไตรมาสที่ 4/59 ที่
3.0% (YoY) จากการส่งออกที่จะเติบโตได้ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า และจะมีบทบาทเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพิ่มเติมจาก
ภาคท่องเที่ยวและการใช้จ่ายภาครัฐ ซึ่งจะช่วยชดเชยผลจากการบริโภคภาคเอกชนที่อาจจะผ่อนแรงลงหลังมาตรการกระตุ้นการใช้
จ่ายสิ้นสุดลง ตลอดจนการลงทุนภาคเอกชนที่ยังไม่ฟื้นตัวได้ ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 60 นั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงมีมุมมองเชิง
ระมัดระวัง และประเมินการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยไว้ที่ 3.3%
- ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาคลีฟแลนด์ ได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากเศรษฐกิจ
สหรัฐยังคงรักษาระดับการขยายตัวได้ดีเหมือนในปัจจุบัน
- ฟิทช์ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ คาดการณ์ว่า ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP)
จะเป็นแม่แบบการระดมทุนหลักที่รัฐบาลจีนจะใช้เพื่อนำไปลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานไปจนถึงปี 2563 โดยรัฐวิสาหกิจ (SOE) จะ
เข้ามามีบทบาทสำคัญ
- ธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดเงิน 1.7 แสนล้านหยวน (2.47 หมื่นล้านดอลลาร์) ผ่านทางข้อตกลงซื้อคืนธบัตรโดยมี
สัญญาขายคืน (reverse repo) โดยธนาคารกลางจีนได้ดำเนินการดังกล่าวติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เพื่อบรรเทาภาวะสภาพคล่องตึงตัว
- กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้าเดือนม.ค.มูลค่า 1.09 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการขาด
ดุลการค้าครั้งแรกในรอบ 5 เดือน
- นักลงทุนรอดูการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจประจำสัปดาห์ รวมทั้งรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐเมื่อเดือนที่
แล้ว เพื่อดูว่า สมาชิกของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐจะมีมุมมองต่อนโยบายต่างๆของประธานาธิบดี
โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอย่างไร