นายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ ทนายความผู้เชี่ยวชาญกฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ กล่าวถึงกรณีธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาเปิดเผยว่าได้ตรวจพบบริษัทเพย์ออล กรุ๊ป ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ โดยให้ผู้ใช้บริการสมัครเป็นสมาชิก เพื่อเติมเงินล่วงหน้าในกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ใช้ในการชำระค่าสินค้าและบริการ ไม่ได้รับอนุญาตตามพ.ร.บ.ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 และพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2551 (พ.ร.ฎ.อีเปย์เมนท์) ถือเป็นความผิดและมีโทษตามกฎหมาย ว่า การเปิดให้บริการโดยเปิดให้บุคคลอื่นเข้ามาโดยเอาเงินสดเข้ามาใส่ในบัญชีแล้วให้ชำระเงินอีเล็กทรอนิกส์เป็นค่าสินค้าและบริการ ไม่ว่าจะทำผ่านแอพพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์ต้องขออนุญาต ธปท.ถ้าไม่ดำเนินการจะมีการแจ้งเตือนโดยหากฝ่าผืนคำสั่งจะมีโทษปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท
“ ธปท.ได้มีหนังสือเตือนทางปกครองไปแล้ว ถ้าไม่ดำเนินการขออนุญาต หรือปรับปรุงการให้บริการให้ถูกต้องถือเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษทางปกครองทันที ส่งที่บริษัทเพย์ออลตอนนี้ต้องชี้แจงว่าเหตุที่ได้รับคำสั่งจากแบงก์ชาติแล้ว และเหตุที่ไม่ปฎิบัติตามเพราะอะไร ถ้ามีเหตุสมควรการคิดค่าปรับอาจจะน้อยลง แต่ถ้าพฤติกรรมไม่ดำเนินการอาจจะปรับในอัตราสูง
คนที่คิดแอพไม่ผิด แต่ถ้าเอาแอพมาให้บริการ ต้องอยู่ใต้กฎหมาย ต้องขออนุญาตให้ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นบริษัทหรือบุคคลธรรมดามาให้บริการโดยไม่มีใบอนุญาตต้องขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่เช่นนั้นจะมีโทษทั้งทางแพ่งและอาญา การนำเงินคนจำนวนมากมาคนมาดูแลต้องได้รบใบอนุญาตและผ่านหลักเกณฑ์การตรวจสอบว่าจะไม่ทำให้เกิดความเสียหายกับประชาชน"นายไพบูลย์ กล่าว
นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า แต่สิ่งที่เป็นห่วงมากกว่าเรื่องแอพอีเพย์เมนท์ คือมีกระแสข่าวว่านอกจากบริการชำระเงินมีการเชิญชวนให้ผู้สนใจเข้ามาลงทุน โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนกลับไป ในส่วนนี้ตนเป็นห่วงว่าหากเป็นจริงอาจเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ และอาจผิด พ.ร.บ.การเล่นแชร์หรือไม่
ทั้งนี้ กระแสข่าวที่ออกมายังระบุว่ามีผู้ที่ได้รับความเสียหายร้องเรียนว่ปลงทุนแล้วไม่ได้รับตามสัญญา ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง การเอาแอพพลิเคชั่นมาชวนคนมาลงทุนและถ้ามีคนลงทุนเข้าข่ายผิดพ.ร.บ.แชร์ จะมีโทษมากกว่า เพราะเป็นผิดอาญามีความรุนแรง ตามข่าวเริ่มมีคนร้องเรียนแล้วว่าลงทุนแล้วไมได้ตามสัญญา หากแอพพลิชั่นชั่นเพลย์ออลขัดต่อกฎหมายจริงคงต้องยุติบริการ แล้วทำการขออนุญาตให้ถูกต้อง ในส่วนของผู้บริโภคมีสิทธิขอเงินคืน ร้องเรียนสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค( สคบ.) ได้