น.ส.นวพร มหารักขกะ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายวางแผนและงบประมาณ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงการส่งเสริมความรู้ทางการเงินให้กับกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือ Gen Y ว่า จากการนำร่องโครงการชวนคน Gen Y เก็บเงินรูปแบบง่ายๆ ผ่าน www.effortlesssaving.com ภายใต้ออนไลน์แคมเปญ #effortlesssavig #เปย์ไม่เจ็บเก็บไม่จน ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นการมุ่งสร้างภูมิคุ้มกันตั้งแต่วัยเริ่มต้นของการใช้เงินของตนเอง เพื่อป้องกันปัญหาทางการเงินในอนาคต และกระตุ้นให้เกิดวินัยทางการเงินตั้งแต่วัยเริ่มต้นทำงานนั้น ในเบื้องต้นโครงการดังกล่าวอาจจะยังได้ผลตอบรับจากกลุ่ม Gen Y ไม่มากเท่าที่ควร
ดังนั้น ธปท.จะมีการปรับปรุงรูปแบบของการส่งเสริมความรู้ทางการเงินใหม่เพื่อให้เข้าถึงกลุ่ม Gen Y มากขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการภายใน 3 ปีนับจากนี้ คือ ลดจำนวนบัญชีการขอสินเชื่อของกลุ่ม Gen Y ที่ผิดนัดชำระหนี้จนเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ลงให้เหลือ 5% จากข้อมูลล่าสุดที่มีจำนวนบัญชีการขอสินเชื่อของกลุ่ม Gen Y ที่ผิดนัดชำระหนี้อยู่ที่ระดับ 5.7% เพราะการที่กลุ่ม Gen Y มีการผิดนัดชำระหนี้มากขึ้น และส่งผลให้มียอด NPL เพิ่มขึ้นนั้นจะมีผลกระทบต่อการขยายสินเชื่อเพื่อการบริโภคในอนาคต และมีผลต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมด้วย
โดย ธปท.จะจับมือกับพันธมิตร เช่น สมาคมธนาคารไทย, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, กองทุนการออมแห่งชาติ และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ เป็นต้น ปรับรูปแบบและหาช่องทางใหม่ๆ ในการส่งเสริมการเข้าถึงความรู้ทางการเงินให้แก่กลุ่ม Gen Y ได้ในวงกว้างและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญคือมุ่งสร้างความตระหนักและปรับพฤติกรรมกลุ่ม Gen Y ให้ออมอย่างสม่ำเสมอและไม่ก่อหนี้เกินตัว ตลอดจนผลักดันร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีทิศทางและแผนการส่งเสริมความรู้ทางการเงินของประเทศ
ทั้งนี้ ธปท. ได้กำหนดตัวชี้วัดหนึ่งในแผนกลยุทธ์ด้านการส่งเสริมความรู้ทางการเงินของระยะ 3 ปี คือ อัตราเติบโตของจำนวนบัญชี Gen Y defaulter ของบัตรเครดิต/P-loan ไม่เกิน 5% โดยมุ่งเน้นการวัดผลจากส่วนที่เป็นบัญชีใหม่ (new comer) เพื่อสะท้อนผลของมาตรการส่งเสริมความรู้ทางการเงินเชิง preventive ตามแผนกลยุทธ์
“ภายใน 3-4 เดือนนี้ เราจะพยามหาช่องทางในการสร้าง Eco System สร้างวินัยในการรู้จักใช้จ่ายและเก็บออมให้ Gen Y เพราะหากให้ปล่อยให้คนกลุ่มนี้ใช้จ่ายโดยไม่รู้จักเก็บออม ก็จะกลายเป็นแนวโน้มที่ไม่ดีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม" น.ส.นวพร กล่าว
อย่างไรก็ดี จากการศึกษาข้อมูลของบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (NCB) พบว่า จำนวนบัญชีลูกหนี้บัตรเครดิตและ Personal loan ของ GEN Y (ช่วงอายุ 18 – 35 ปี) ที่ผิดนัดชำระหนี้มากกว่า 30 วันขึ้นไป (defaulter) ในช่วงปี 2013-2015 มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยประมาณ 5.79% (ในปี 2015 มีจำนวนบัญชี Gen Y defaulter ประมาณ 1.49 ล้านบัญชี) และยังพบว่า Gen Y เป็นกลุ่มที่มีการขอสินเชื่อใหม่เพิ่มขึ้นในทุกประเภท ทั้งบ้าน รถยนต์ บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล
อนึ่ง เมื่อวันที่ 17 ม.ค.60 ธปท.ได้ร่วมกับธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) เปิดตัวออนไลน์แคมเปญ #effortlesssavig #เปย์ไม่เจ็บเก็บไม่จน ซึ่งเป็นการนำเสนอเทคนิคการเก็บเงินที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่และปรับเปลี่ยนทัศนคติเดิมๆ ของคนรุ่นใหม่ที่มองว่าการเก็บเงินเป็นเรื่องยากและไกลตัวให้เป็นเรื่องง่ายที่สามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่ตอนนี้