นายชัยยุทธ คำคุณ รองอธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรมศุลกากรได้ดำเนินการสั่งคดีนำเข้ารถเมล์ NGV ล็อตแรกจำนวน 1 คัน ที่บริษัท ซุปเปอร์ซาร่า จำกัด เป็นผู้นำเข้าโดยมีความผิดสำแดงเท็จเลี่ยงภาษี หลังจากที่บริษัทไม่ยอมความในชั้นการพิจารณาของกรมศุลกากร เพราะบริษัทยืนยันกลับมาว่าเป็นการนำเข้าอย่างถูกต้อง ดังนั้น หลังจากนี้กรมศุลกากรจะส่งเรื่องให้ตำรวจและอัยการเพื่อพิจารณาส่งฟ้องศาลต่อไป
ส่วนการสั่งคดีการนำเข้ารถเมล์ NGV ที่เหลืออีก 4 ล็อต จำนวน 488 คันนั้นคาดว่าจะสั่งคดีได้ทั้งหมดภายในปีนี้ และจะดำเนินการส่งฟ้องศาลพร้อมกัน เพราะเป็นความผิดในลักษณะเดียวกัน คือ เป็นการนำเข้ารถเมล์สำเร็จรูปทั้งคันจากจีน ไม่ได้มีถิ่นกำเนิดหรือผลิตในมาเลเซียตามที่บริษัทแจ้งมาแต่อย่างใด
"กรมศุลกากรมีหลักฐานชัดเจนว่ารถเมล์ NGV ที่นำเข้ามาทั้ง 5 ล็อต รวม 489 คัน มีการสำแดงเท็จ ไม่ได้เป็นรถที่มีถิ่นกำเนิดจากประเทศมาเลเซียตามที่ผู้นำเข้าสำแดง แต่เป็นรถสำเร็จรูปที่ขนส่งมาจากจีนไปพักไว้ที่มาเลเซีย และส่งเข้ามาที่ประเทศไทย" นายชัยยุทธ กล่าว
ทั้งนี้ หากศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าบริษัทผู้นำเข้ามีความผิดจริง ก็จะต้องเสียค่าปรับ 4 เท่าของราคาสินค้ารวมอากร ซึ่งราคารถเมล์ NGV ที่นำเข้านี้กรมศุลกากรไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นความลับของผู้นำเข้า แต่ภาษีนำเข้าจะอยู่ที่ 40% หรือ 1.24 ล้านบาท หากรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) อีก 7% ค่าอากรภาษีจะอยู่ที่คันละ 1.45 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี สำหรับรถเมล์ NGV ในล็อต 2 ที่นำเข้ามา 99 คันนั้น บริษัทผู้นำเข้ายังไม่สามารถนำรถเมล์ NGV ออกจากท่าเรือแหลมฉบังได้ เนื่องจากยังไม่มีการชำระค่าปรับ 2 เท่า