นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า เตรียมเดินหน้าส่งเสริมให้เกษตรกรไทยทำเกษตรอินทรีย์ เพื่อรองรับความต้องการของตลาดโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดยุโรปที่มีแนวโน้มความต้องการเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันผู้บริโภคทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ปราศจากสารเคมีหรือสารพิษตกค้าง
จากแนวโน้มดังกล่าวทำให้มูลค่าตลาดเกษตรอินทรีย์โลกมีมูลค่าสูงถึง 72,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 2.3 ล้านล้านบาท โดยมีอัตราการขยายตัวประมาณปีละ 20% และจากความต้องการสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่เพิ่มสูงขึ้นในตลาดโลกดังกล่าว ส่งผลให้ในปัจจุบันประเทศไทยมีมูลค่าตลาดเกษตรอินทรีย์เพิ่มมากขึ้น โดยมีมูลค่าประมาณ 2,300 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตประมาณ 10% ต่อปี
ที่ผ่านมาประเทศไทยมีการส่งออกสินค้าเกษตรอินทรีย์ไปยังตลาดต่างประเทศปีละไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันเกษตรกรไทยเริ่มหันมาให้ความสนใจปลูกพืชอินทรีย์ เช่น ข้าว และผักผลไม้ ในพื้นที่เกษตรกันมากขึ้น โดยมีการแบ่งพื้นที่เพาะปลูกอย่างชัดเจนเพื่อป้องกันไม่ให้มีสารเคมีเข้ามาในพื้นที่เกษตรอินทรีย์
ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ได้ให้ความสำคัญกับเกษตรอินทรีย์มาอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการส่งเสริมและสนับสนุนช่องทางการตลาด ทั้งตลาดภายในประเทศและตลาดต่างประเทศ ตลอดจนรณรงค์เรื่องมาตรฐานสินค้าเกษตรอินทรีย์ให้เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริโภคในต่างประเทศที่ให้ความสำคัญกับตรารับรองมาตรฐานสินค้าเป็นอันมาก ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงฯ ได้มีการรณรงค์ในเรื่องของคุณภาพ มาตรฐานของสินค้าเกษตรและอาหาร รวมถึงส่งเสริมการตลาดสำหรับสินค้าเกษตรอินทรีย์มาโดยตลอด
ในปีนี้กระทรวงฯ มีโครงการที่จะผลักดันและส่งเสริมสินค้าเกษตรอินทรีย์ โดยได้จัดทำแผน 9++ ที่จะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ และให้ความรู้ในการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์แก่เกษตรกรและผู้ผลิต รวม 9 โครงการ อาทิ การจัดมหกรรมสินค้าอินทรีย์ การสร้างเครือข่ายเยาวชนอินทรีย์ การจัดตลาดนัดสีเขียว การจัดโครงการส่งเสริมและพัฒนา Organic Village และ Organic Farm Outlet และการจัดงาน Organic & Natural Expo 2017 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอินทรีย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นต้น
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า เมื่อกลางเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา กระทรวงฯ ได้นำผู้ประกอบการไทยเดินทางไปเข้าร่วมงานแสดงสินค้าเกษตรอินทรีย์นานาชาติ หรือ BIOFACH 2017 ที่ประเทศเยอรมนี ซึ่งงานดังกล่าวถือได้ว่าเป็นงานเกษตรอินทรีย์ระดับโลก โดยเป็นเวทีที่สำคัญที่ผู้ประกอบการไทยได้ใช้โอกาสในการประชาสัมพันธ์ข้าวอินทรีย์และผลิตภัณฑ์จากข้าวอินทรีย์ของไทยให้เป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติมากขึ้น
"จากการที่ได้มีโอกาสเดินทางลงพื้นที่ไปพบปะกับพี่น้องเกษตรกร และผู้ผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้องกับผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันสำปะหลัง ทำให้ทราบว่าในปัจจุบันผู้บริโภคในสหภาพยุโรปเริ่มหันมาให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลังอินทรีย์เพิ่มมากขึ้น จึงถือได้ว่าเป็นโอกาสอันดีของเกษตรกรและผู้ผลิตแป้งมันสำปะหลังของไทยที่จะหันมาปลูกมันสำปะหลังอินทรีย์กันให้มากขึ้น เพื่อรองรับกับความต้องการของผู้บริโภคในสหภาพยุโรปที่นับวันยิ่ง มีแต่จะเพิ่มสูงขึ้น และในเรื่องนี้ กระทรวงฯ ก็จะได้มีนโยบายที่จะสนับสนุนเกษตรกรให้ปลูกมันสำปะหลังอินทรีย์ นอกเหนือจากการทำมันเส้นสะอาดเพื่อนำมาผลิตแป้งมันสำปะหลังอินทรีย์ส่งออกไปยังยุโรปต่อไป" นางอภิรดี กล่าว