"พลัส พร็อพเพอร์ตี้"ได้งานบริหารพื้นที่ SCB Park 5 แสนตร.ม.พร้อมเจรจาเพิ่มอีก 5-6 โครงการ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday February 23, 2017 11:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชาญ ศิริรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริหารทรัพยากรอาคารและวิศวกรรม บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ในเครือ บมจ.แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า บริษัทเพิ่งได้รับการตกลงในการเข้าบริหารโครงการ SCB Park รัชโยธิน พื้นที่ 500,000 ตารางเมตร โดยเป็นโครงการที่มีพื้นที่จำนวนมากที่สุดที่จะเข้ามาในพอร์ตการบริหารโครงการอาคารสำนักงานของบริษัท และทำให้พอร์ตการบริหารอาคารสำนักงานของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 31 โครงการ จากสิ้นปีก่อนมีโครงการอาคารสำนักงานที่บริหารอยู่ที่ 30 โครงการ อีกทั้งอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อบริหารโครงการอาคารสำนักงานอีกจำนวน 5-6 โครงการในกรุงเทพฯ ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปีนี้บางส่วน

สัดส่วนรายได้จากธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัยและเพื่อการพาณิชย์ของบริษัทในปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จากโครงการบริหารที่พักอาศัยมากกว่าเล็กน้อยราว 50% ส่วนรายได้จากการบริหารอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ปัจจุบันอยู่ที่เกือบ 50% ซึ่งบริษัทมองว่าสัดส่วนรายได้จากการบริหารอส่งหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์จะยังทรงตัวในนะดับเดิมในช่วง 1-2 ปีนี้ เพราะปัจจุบันยังไม่มีโครงการอาคารสำนักงานเปิดใหม่เพิ่มขึ้นมากนัก เพราะภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอทำให้เกิดการชะลอการลงทุน

แต่หากแนวโน้มเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวและมีการลงทุนเกิดขึ้นคาดว่าจะเห็นพื้นที่อาคารสำนักงานใหม่ๆในตลาดเพิ่มขึ้นตาม โดยสัดส่วนรายได้ของการบริหารอส่งหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ของบริษัทจะเพิ่มมากขึ้นหากมีโครงการอาคารสำนักงานใหม่ๆเกิดขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสที่ทำให้บริษัทมีส่วนเข้าไปบริหาร แต่ก็ยอมรับว่าการแข่งขันในธุรกิจการบริหารอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์มีการแข่งขันที่รุนแรง เพราะมีคู่แข่งจากต่างชาติที่มีชื่อเสียงและมีความเชี่ยวชาญในการบริหารโครงการที่ดีมาก ทำให้บริษัทจะต้องแข่งขันกับคู่แงจากต่างชาติที่มีความแข็งแกร่ง ซึ่งอาจจะไม่สามารถได้บริหารโครงการอาคารสำนักงานทุกโครงการที่ต้องการได้

นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า โลกก้าวสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 และกระแสทางเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงสู่ดิจิตอลอย่างเต็มรูปแบบ (Digital Transformation) จึงมั่นใจได้ว่าเทคโนโลยีเป็นส่วนสำคัญในการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อดิจิตอลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลของสมาคมโฆษณาดิจิทัลฯ ระบุว่าสื่อดิจิตอลโตไม่หยุด มูลค่าเม็ดเงินโฆษณาของปี 59 อยู่ที่ 9.88 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 22% จากปี 59

ดังนั้น พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จึงกำหนดแผนการดำเนินงานในปี 60 ภายใต้ยุทธศาสตร์หลักคือก้าวสู่ความเป็นเลิศทั้งด้านบริการและบุคลากรโดยการนำโซลูชั่นทางเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแบ่งเป็น 3 ด้านสำคัญ ได้แก่ 1.วางรากฐาน Big Data สู่การรวมศูนย์ข้อมูล ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี ทำให้พลัสฯ มีฐานข้อมูลลูกค้าเป็นจำนวนมาก (Big Data) เข้าใจลูกค้าในทุกกลุ่ม จึงเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการจัดระบบฐานข้อมูลลูกค้า

โดยเป็นการรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ซึ่งมีความหลากหลายและมีปริมาณมหาศาลเพื่อนำมาวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและเกิดประโยชน์สูงสุด อาทิ ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ความสนใจในด้านต่างๆ ตลอดจนการพฤติกรรมการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย นำมาบริหารจัดการด้วยระบบดิจิตอล เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมการตัดสินใจของผู้บริโภค ความต้องการของผู้ซื้อ ส่งผลให้เกิดการใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลมหาศาลเหล่านี้ในการต่อยอดการทำงานตั้งแต่ต้นน้ำยังปลายน้ำ เกิดการเข้าถึงข้อมูลร่วมกัน สามารถนำข้อมูลที่มีมาใช้ประโยชน์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด ช่วยให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยกระดับการบริการทั้งด้านงานขาย บริการหลังการขาย งานซ่อมบำรุง การให้คำปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ สามารถดูแลลูกค้าได้เหมาะสมในทุกความต้องการและทุกจังหวะเวลา ถัดมาคือ

2. การขับเคลื่อนธุรกิจด้วย Property Technology (PropTech) ตอบโจทย์การอยู่อาศัยยุคดิจิตอล ผ่านการต่อยอดจากเว็บไซต์ www.plus.co.thให้เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภค และwww.plussoleagent.com เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์อสังหาริมทรัพย์ ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อเร็วๆนี้ ในการนำเสนอบริการให้กับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์หน้าใหม่ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ รวมถึงการดูแลผู้อยู่อาศัยผ่านแอพพลิเคชั่นที่เรียกว่า Home Service Application เป็นแอพพลิเคชั่นที่ให้บริการลูกบ้านในโครงการ บมจ.แสนสิริ (บริษัทแม่) ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีทั้งจากลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ และ

3.การตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มด้วย Total Solution(การบริการแบบครบวงจร)เนื่องจากปัจจุบันลูกค้ามีความต้องการที่ซับซ้อนมากขึ้นการบริการที่ครบวงจร ผ่านองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญทางด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เพื่อให้ลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุดเป็นสิ่งที่พลัสฯ ให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ได้จัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาใหม่เพื่อดูแลลูกค้าต่างประเทศโดยเฉพาะ อาทิกลุ่มลูกค้าชาวจีน ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ ตลอดจนเป็นการสนับสนุนโครงการของแสนสิริที่เปิดการขายโครงการในต่างประเทศ โดยทีมพิเศษนี้สามารถให้คำปรึกษารอบด้าน ในการบริหารทรัพย์สินให้พร้อมใช้งานและมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น โดยให้คำปรึกษาทั้งด้าน การคำนวณทิศทางราคาอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต ดูแลจัดการด้านการปล่อยเช่า การหาผู้เช่าให้กับลูกค้า รวมถึงช่วยประสานงานกับเอเจนซี่ในต่างประเทศ ในรูปแบบ One Stop Service

สำหรับทิศทางเศรษฐกิจของประเทศไทยนั้น คาดว่าจะพื้นตัวในครึ่งปีหลัง จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ หากพิจารณาในส่วนของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทยเป็นอีกปีที่ท้าทาย ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มดีขึ้นเล็กน้อย ตามปัจจัยบวกจากโครงการลงทุนโครงข่ายคมนาคมของภาครัฐ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าเส้นทางต่างๆ รวมถึงการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษในต่างจังหวัด

“ในปีนี้ยังคงเห็นโครงการใหม่ๆ เปิดตัวสู่ตลาด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นโครงการระดับบน และที่น่าสนใจคือโครงการระดับ Super Luxury จะเป็นดีมานด์เพื่อการอยู่อาศัยจริง จากแนวโน้มความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในพื้นที่ใจกลางเมือง สอดคล้องกับข้อมูลราคาขายโดยเฉลี่ยของโครงการคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ในพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจ ที่มีอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ย โดดเด่นกว่าราคาขายของโครงการพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นกลาง และพื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯ และอีกประเด็นหนึ่งที่น่าจับตามองคือการบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะมีการนำที่ดินที่มีอยู่แล้ว (Land Bank) ออกมาพัฒนาเร็วขึ้น ทั้งในโซนสุขุมวิท อโศก หรือทองหล่อ ส่วนหนึ่งคือการปรับกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าในกลุ่มพรีเมี่ยมที่มีการเติบโตสูงและยังมีความต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงและลงทุนในระยะยาว"นายอนุกูล กล่าว

สำหรับในปี 59 บริษัทมีรายได้รวม 970 ล้านบาท ทรงตัวเมื่อเทียบกันปีก่อนหน้า สอดคล้องกับภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยรายได้ดังกล่าวมาจากธุรกิจบริหารสินทรัพย์ (ตัวแทนซื้อ-ขาย-เช่าอสังหาฯ) 40% และอีก 60% เป็นรายได้จากธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัยและเพื่อการพาณิชย์ ปัจจุบันมีโครงการที่บริหารทั้งสิ้น 188 โครงการ ซึ่งล่าสุดบริษัทเพิ่งได้รับความไว้วางใจในการบริหารโครงกาคอนโดมิเนียม คือ โครงการ เดอะ รีเว้อ (The River) เข้ามาเพิ่มในพอร์ตการบริหารโครงการที่พักอาศัยของบริษัท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ