พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการจัดทำผลการศึกษาสิ่งแวดล้อม (EIA) และผลการศึกษาสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) โรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ว่า ในการดำเนินการต้องนำผลการศึกษาเดิมมาทบทวน เพราะของเดิมก็ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ จึงต้องนำมาพิจารณาใหม่ทั้งหมด
ส่วนข้อเสนอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้จัดทำประชามติกรณีโรงไฟฟ้าถ่านหินในพื้นที่นั้น นายกรัฐมนตรีย้อนถามว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นหน้าที่ของ กกต.หรือไม่
ด้าน พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เตรียมนำรายงานผล EIA และ EHIA เดิมที่ได้ปรับแก้ไขข้อกังวลกว่า 200 ข้อ รวมถึงการนำความเห็นของคณะกรรมการไตรภาคีมาประกอบใน EIA และ EHIA แล้ว เพื่อยื่นต่อสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เร็วๆนี้
ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ สผ.ว่าจะรับ EIA และ EHIA ที่ กฟผ.ปรับแก้ไขแล้วหรือไม่ หรือหากต้องการให้ทำเปิดประชาพิจารณ์รอบใหม่เพิ่มเติม ทาง กฟผ.ก็สามารถเปิดรับฟังความเห็นอีกรอบได้ แต่กรณีที่ สผ.ไม่รับ EIA และ EHIA ก็ต้องกลับไปเริ่มต้นทำ EIA และ EHIA ใหม่ทั้งหมด และทำให้การสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ล่าช้าออกไปเป็นปี 66 แทน จากเดิมคาดว่าจะเข้าระบบในปี 64-65
"การทำ EIA และ EHIA จะต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งหมดหรือไม่ ก็ขึ้นกับการพิจารณาของ สผ. ซึ่งในส่วนของกระทรวงพลังงานยืนยันจะนำของเดิมมาปรับแก้และเสนอกลับไปให้ สผ.พิจารณาใหม่ ตอนนี้อย่าพูดเลยว่า Set Zero หรือ เปล่า ตามหลักการแล้วสามารถปรับแก้ไขได้ แต่ทั้งหมดขึ้นกับ สผ. จะพิจารณา"
ส่วนกรณีที่ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า การทำ EIA และ EHIA ใหม่จะทำให้โรงไฟฟ้ากระบี่เข้าระบบล่าช้าไปถึงปี 67 นั้น รมว.พลังงาน ระบุว่า เป็นการพูดเผื่อไปถึงกรณีเลวร้ายสุดเท่านั้น