นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ธปท.กำลังจับตากระแสเงินทุนไหลเข้าจากต่างชาติที่เข้ามาในไทย โดยเฉพาะในตลาดพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งพบว่ามีมูลค่าค่อนข้างมาก เนื่องจากมุมมองของนักลงทุนต่างชาติเห็นว่าตลาดในไทยเป็น Safe Heaven เพราะไทยมีทุนสำรองมูลค่าสูงเป็นอันดับ 12 ของโลก ที่มูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ จึงทำใหันักลงทุนต่างชาติสนใจจะนำเงินเข้ามาพักในไทย
โดยผลจากกระแสเงินทุนไหลเข้าดังกล่าว ทำให้เงินบาทแข็งค่ามากเกินไป และกระทบต่อการทำการค้าของภาคธุรกิจ รวมทั้งจะทำให้อัตราแลกเปลี่ยนมีความผันผวนสูงหากมีการทำธุรกรรมเกิดขึ้นปริมาณมากภายในระหว่างวัน แต่ทั้งนี้ ธปท.มีเครื่องมือที่จะเข้าไปดูแลเพื่อให้มีเสถียรภาพ และไม่ส่งผลกระทบต่อระบบการเงินในภาพรวม
อย่างไรก็ดี แม้จะมีกระแสเงินทุนไหลเข้ามามากในตลาดพันธบัตรของไทย แต่การถือครองพันธบัตรในไทยของต่างชาติยังมีสัดส่วนที่น้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นซึ่งหากมีเงินทุนไหลออก ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบในเรื่องความผันผวนของค่าเงินน้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้าน
"การที่นักลงทุนต่างชาติมองประเทศไทยเป็น Safe Heaven แห่งหนึ่ง เพราะทุนสำรองบ้านเราสูงเป็นอันดับ 12 ของโลก แต่การที่เงินไหลเข้ามาก็ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น โดยเฉพาะปัจจุบันที่แข็งค่าขึ้นอย่างมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่แบงก์ชาติไม่ค่อยชอบ เพราะกระทบกับการทำธุรกิจในภาพรวม แต่เราต้องใช้เครื่องมือของเราในการควบคุมและดูแลเรื่องความผันผวน และอัตราแลกเปลี่ยน" ผู้ว่าฯ ธปท.ระบุ
ส่วนกรณีที่บริษัท เพย์ออลล์ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) บนแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ ภายใต้ชื่อ PayAll นั้น นายวิรไท กล่าวว่า ธปท.มองว่าบริษัทดังกล่าวยังดำเนินการไม่ถูกต้องตามขั้นตอนทางกฎหมาย ซึ่ง ธปท.ยังเปิดโอกาสให้ผู้บริหารของ PayAll จะเข้ามาขออนุญาตการประกอบธุรกิจให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่ทั้งนี้บริษัทฯ จะต้องยินยอมให้ ธปท.สามารถเข้าไปตรวจสอบระบบการให้บริการทางการเงิน และคุณสมบัติของผู้บริหารด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ ธปท.ให้ความสำคัญ เพราะเป็นเรื่องของความน่าเชื่อถือ
อย่างไรก็ดี ธปท.ได้เตือนให้ประชาชนหยุดใช้บริการระบบ e-Money กับบริษัทที่ไม่ได้รับใบอนุญาตจาก ธปท. เพราะหากมีความเสียหายเกิดขึ้น ประชาชนจะไม่ได้รับความคุ้มครองจากธปท. ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเข้าไปตรวจสอบรายชื่อบริษัทที่ให้บริการระบบ e-Money ที่ได้รับการอนุญาตได้ที่เว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย www.bot.or.th หรือสอบถามได้ที่สายด่วน 1213