นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนมกราคม 2560 ว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนมกราคม 2560 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ขยายตัว 6.5% การส่งออกขยายตัวต่อเนื่องที่ 8.8% และการใช้จ่ายภาคเอกชนส่งสัญญาณดีขึ้นจากรายได้ของเกษตรกรที่ขยายตัวต่อเนื่องที่ 16.8% สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ส่วนหนึ่งจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักรจากปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ที่กลับมาขยายตัว 4.5%
โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการใช้จ่ายภาคเอกชนในเดือนมกราคม 2560 มีสัญญาณดีขึ้น สะท้อนจากยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ที่ขยายตัว 2.3% ต่อปี สอดคล้องกับรายได้เกษตรกรที่แท้จริงที่ขยายตัวอยู่ที่ 16.8% ต่อปี ส่วนหนึ่งจากราคาสินค้าเกษตรในภาพรวมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมยังปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ระดับ 63.1 โดยมีปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่จะส่งผลดีต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ในขณะที่การลงทุนภาคเอกชนส่งสัญญาณในทิศทางเป็นบวกโดยเฉพาะในหมวดก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศที่ขยายตัว 2.0% ต่อปี ขณะที่การลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักรจากปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ขยายตัวที่ 4.5% ต่อปี และเมื่อปรับผลทางฤดูกาลออกขยายตัว 1.3% ต่อเดือน
ด้านมูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวต่อเนื่องที่ 8.8% ต่อปี สำหรับมูลค่าการนำเข้า ขยายตัว 5.2% ต่อปี ทั้งนี้ การส่งออกที่สูงกว่าการนำเข้าส่งผลให้ดุลการค้ายังคงเกินดุลที่ 0.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นการเกินดุลการค้าอย่างต่อเนื่อง
เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านการผลิตในเดือนมกราคม 2560 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวต่างประเทศที่ขยายตัวได้ดี สะท้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยในเดือนมกราคม 2560 มีจำนวน 3.2 ล้านคน คิดเป็นการขยายตัว 6.5% ต่อปี สร้างรายได้ให้กับการท่องเที่ยวต่างประเทศจำนวน 1.69 แสนล้านบาท ขยายตัว 10.3% ต่อปี โดยเป็นนักท่องเที่ยวรายประเทศที่ขยายตัวได้ดีจากจีน รัสเซีย ฮ่องกง อินเดีย และยุโรปตะวันออกเป็นหลัก
ขณะที่เสถียรภาพเศรษฐกิจไทยยังคงแข็งแกร่ง โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในเดือนมกราคม 2560 ขยายตัวอยู่ที่ 1.6% และ 0.7% ต่อปีตามลำดับ นอกจากนี้ อัตราการว่างงานอยู่ที่ 1.2% ของแรงงานรวม ขณะที่สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2559 อยู่ที่ระดับ 42.2% ถือว่ายังอยู่ภายใต้กรอบความยั่งยืนทางการคลังที่ตั้งไว้ ไม่เกิน 60% สำหรับทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนมกราคม 2560 อยู่ที่ 179.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีสัดส่วนทุนสำรองระหว่างประเทศเมื่อเทียบกับหนี้ต่างประเทศระยะสั้น ณ เดือนธันวาคม 2559 คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 3.2 เท่า สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นคงของเศรษฐกิจไทยในการรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้