รายงานข่าวจาก สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (สทค.) มีหนังสือลงวันที่ 21 ก.พ.60 ถึงคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) และเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) ขอให้พิจารณาปรับปรุงการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมให้สอดคล้องกับสภาพอุตสาหกรรม และสอดคล้องกับรายจ่ายในการกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมอย่างมีประสิทธิภาพ
หนังสือฉบับดังกล่าวระบุว่า เนื่องจากในปัจจุบัน ผู้ให้บริการโทรคมนาคมมีรายได้จากการให้บริการลดลงอย่างต่อเนื่อง เพราะรายได้จากผู้ใช้บริการโทรคมนาคมจะเกิดขึ้นที่ผู้ให้บริการเนื้อหา (Content Provider) ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) และผู้ให้บริการApplication บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ต่างๆ เป็นส่วนใหญ่
ในขณะที่ผู้ให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคม ซึ่งเป็นผู้รับใบอนุญาตจำเป็นต้องมีการลงทุนและขยายโครงข่ายเพื่อรองรับการใช้งานที่เพิ่มสูงขึ้น และแบกรับต้นทุนการให้บริการ อีกทั้งยังมีต้นทุนด้านการกำกับดูแล เช่น ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม ค่าธรรมเนียมบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม (USO) ค่าธรรมเนียมเลขหมายโทรคมนาคม ค่าธรรมเนียมการใช้คลื่นความถี่ เป็นต้น จึงต้องการให้หน่วยงานกำกับดูแลพิจารณาลดการจัดเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ เพื่อให้ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมสามารถแข่งขันและอยู่รอดได้ในอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ สทค. ยังระบุด้วยว่า ตามเจตนารมณ์ของมาตรา 45 วรรค 3 พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 กำหนดให้หน่วยงานกำกับดูแลมีอำนาจกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมและค่าธรรมเนียมซึ่งต้องชำระเป็นรายปีโดยคำนึงถึงรายจ่ายในการกำกับดูแลการใช้คลื่นความถี่และการกำกับดูแลการประกอบกิจการอย่างมีประสิทธิภาพ และให้นำส่งเป็นรายได้ของหน่วยงานกำกับดูแล ซึ่งสภาวการณ์ปัจจุบัน หน่วยงานกำกับดูแลได้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมใบอนุญาตมากเกินกว่าความจำเป็น ดังจะเห็นได้จากการมีรายได้คงเหลือนำส่งกระทรวงการคลังในช่วงระยะ 3 ปีที่ผ่านมา
ก่อนหน้าที่ กทค. จะได้รับหนังสือจาก สทค. ในการประชุม กทค. ครั้งที่ 6/2560 เมื่อวันที่ 21 ก.พ.60 ที่ประชุมได้มีการพิจารณาวาระเรื่อง (ร่าง) แผนการจัดให้มีบริการ USO ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2560 – 2554) และ (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการจัดเก็บรายได้เพื่อนำไปสนับสนุนการจัดให้มีบริการ USO โดยในเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการจัดเก็บรายได้นั้น กทค. มีมติเห็นชอบปรับลดค่าธรรมเนียม USO ที่ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมต้องนำส่ง จากอัตรา 3.75% ของรายได้ต่อปี เหลือ 2.50% ของรายได้ต่อปี
พร้อมทั้งปรับเพิ่มเติมรายการค่าใช้จ่ายในการหักลดหย่อนของผู้รับใบอนุญาต เช่น ค่าใช้จ่ายในการซื้อหรือเช่าบริการโทรคมนาคมจากผู้รับใบอนุญาตรายอื่น ค่าใช้จ่ายในการซื้อหรือให้บริการโทรคมนาคมจากผู้บริการโทรคมนาคมในต่างประเทศ เป็นต้น ซึ่งเรื่องนี้จะมีการนำเสนอให้ที่ประชุม กสทช. พิจารณาอีกครั้งหนึ่งก่อนเข้าสู่กระบวนการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะต่อไป