นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการการปรับระบบการจัดซื้อจัดจ้าง ของราชการและรัฐวิสาหกิจใน 3 ประเด็นหลัก 1. เรื่องของทีโออาร์ไม่ชัดเจน ล็อคสเปค ตั้งราคากลางสูงเกินไปไม่สมเหตุสมผล 2.มีการฮั้วการประมูล สมยอมด้านราคา และ 3.การซื้อผ่านคนกลาง โดยไม่สมเหตุสมผล ทั้งนี้ เพื่อความโปร่งใสและป้องกันแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น
สำหรับแนวทางที่รัฐบาลจะดำเนินการแก้ไข ประกอบด้วย กรณีการกำหนด TOR ที่ไม่ชัดเจน การล็อคสเปค และการกำหนดราคากลางสูงเกินจริง จะมีแนวทางในการดำเนินการโดยจัดทำข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) ให้คณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต กำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางการดำเนินการโครงการร่วมมือป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ โดยคัดเลือกโครงการขนาดใหญ่ของหน่วยงานภาครัฐ และให้มีผู้สังเกตการณ์ตรวจสอบโครงการตลอดระยะเวลาของโครงการ
รวมทั้งให้คณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อสอบทานราคากลางงานก่อสร้าง โดยมีองค์ประกอบจากหน่วยงานภาครัฐ องค์กรวิชาชีพ นักวิชาการ และผู้ทรงคุณวุฒิด้านการก่อสร้าง และให้กรมบัญชีกลางนำข้อมูลจัดซื้อครุภัณฑ์ในระบบ e-GP มากำหนดราคากลางครุภัณฑ์และให้ปรับปรุงข้อมูลราคากลางให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ
ส่วนกรณีการแก้ปัญหาการสมยอมราคาในการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐหรือการฮั้วประมูลนั้น จะมีแนวทางดำเนินการโดยเพิ่มกรอบอำนาจเจ้าหน้าที่ของคณะกรรมการกำกับหลักเกณฑ์และตรวจสอบราคากลางงานก่อสร้าง โดยให้สามารถกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการงานก่อสร้างที่มีสิทธิเป็นผู้ยื่นข้อเสนอต่อหน่วยงานของรัฐ เพื่อดำเนินการไปก่อนที่ร่าง พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ พ.ศ...จะมีผลบังคับใช้
พร้อมกันนี้ ได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันกันมากขึ้น โดยงานก่อสร้างที่มีวงเงินตั้งแต่ 5 พันล้านบาทขึ้นไป และเป็นการดำเนินงานที่มีเทคนิคเฉพาะ รายละเอียดซับซ้อน ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง หรือมีความชำนาญเป็นพิเศษ เช่น ทางยกระดับ อุโมงค์ใต้ดิน ท่าเรือ ท่าอากาศยาน เป็นต้นนั้น จะให้หน่วยงานภาครัฐต้องดำเนินการประกวดราคานานาชาติ (International Bidding)
ส่วนงานอื่นที่ไม่ใช่งานก่อสร้างที่มีวงเงินตั้งแต่ 1 พันล้านบาทขึ้นไป และเป็นการซื้อหรือการจ้างมีรายละเอียดของสินค้า บริการ หรืองานที่มีความซับซ้อน มีเทคนิคเฉพาะ จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง และมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีใหม่ๆ นั้น ให้หน่วยงานภาครัฐกำหนดคุณสมบัติของผู้เสนอราคา โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการต่างประเทศสามารถเข้าร่วมเสนอราคาได้
สำหรับการแก้ปัญหาการจัดซื้อผ่านคนกลางโดยไม่มีเหตุอันสมควรนั้น มีแนวทางให้การจัดซื้อพัสดุที่มีรายละเอียดของสินค้ามีความซับซ้อน มีเทคนิคเฉพาะ จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีชั้นสูง มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีใหม่ๆ และมีผู้ผลิตสินค้าตามรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะตามที่หน่วยงานกำหนดน้อยราย ให้หน่วยงานภาครัฐดำเนินการจัดซื้อกับผู้ผลิตโดยตรงไม่ให้ซื้อผ่านผู้แทนจำหน่าย เว้นแต่มีเหตุจำเป็น
นายกอบศักดิ์ กล่าวด้วยว่า แนวทางการกำกับดูแลบริษัทในเครือของรัฐวิสาหกิจให้มีการบริหารจัดการที่มีความโปร่งใสนั้น คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการจัดตั้ง/ ร่วมทุนในบริษัทเครือในรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้การบริหารมีความโปร่งใสและต้องมีการเปิดเผยข้อมูลรายงานประจำปี ภายใน 60 วันจากสิ้นปีบัญชี ต้องมีนโยบายการป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และกรณีมีการเปลี่ยนแปลงกรรรมการและผู้บริหารระหว่างปีให้รายงานทุกครั้งเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงภายใน 30 วัน
นอกจากนี้ ยังกำหนดแนวทางเพื่อกำชับไม่ให้ข้าราชการและพนักงานของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ รับทรัพย์สิน สิ่งของ หรือประโยชน์อื่นใดที่มีมูลค่าเกินกว่า 3,000 บาทด้วย