ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปทั้งปี 2560 ลงมาที่ 1.9%YOY จากเดิม 2.3%YOY เนื่องจากราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวได้ช้ากว่าที่คาด ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงต้นปี รวมทั้งราคาสินค้าอุปโภคบริโภคบางชนิดที่ชะลอลงกว่าที่คาด อย่างไรก็ตาม มองว่าการบริโภคในประเทศจะทยอยฟื้นตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ประกอบกับราคาน้ำมันดิบเบรนท์ก็ยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงกว่าปีก่อนเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 54 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และค่าเงินบาทก็ยังมีแนวโน้มอ่อนค่าลงไปที่ 37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ณ สิ้นปี 2017 ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยเร่งตัวขึ้นเฉลี่ยทั้งปีที่ 1.9%YOY
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานทั้งปี 2560 มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปอยู่ที่ 0.8%YOY ตามการบริโภคในประเทศที่จะได้รับแรงสนับสนุนจากกำลังซื้อภาคครัวเรือนที่จะกลับมาและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ อย่างไรก็ตาม ยังมีแรงกดดันการบริโภคหลายประการ ทั้งจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจที่ยังเติบโตช้าและไม่แน่นอนทำให้รายได้ภาคครัวเรือนยังฟื้นตัวได้อย่างช้าๆ
ทั้งนี้ EIC มองว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% ถึงแม้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2017 จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในกรอบเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ 2.5% ± 1.5% และยังต้องคงอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงต่อไป
วันนี้ กระทรวงพาณิชย์รายงานอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนก.พ.2560 อยู่ที่ 1.44%YOY เทียบกับ 1.55%YOY ในเดือนก่อนหน้า เนื่องจากดัชนีราคาอาหารสดและดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานที่ปรับลดลงเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ดัชนีราคาพลังงานยังขยายตัวตามราคาน้ำมันและการปรับขึ้นของราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ในเดือนกุมภาพันธ์จาก 20.29 บาทต่อกิโลกรัมเป็น 20.96 บาทต่อกิโลกรัม
โดยดัชนีราคาอาหารสดชะลอลงที่ 0.6%YOY จาก 1.8%YOY ในเดือนก่อน โดยราคาอาหารที่ลดลง เช่น ข้าวและผลิตภัณฑ์จากแป้ง เนื้อสัตว์ ไข่และผลิตภัณฑ์นม
ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานชะลอลงไปที่ 0.59%YOY จากเดือนก่อนที่ 0.74%YOY เนื่องจากราคาสินค้าอุปโภคบริโภคหลายรายการปรับลดลง เช่น ค่าไฟฟ้า เครื่องนุ่งห่ม และรองเท้า ของใช้ในบ้าน เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมาจากผลของฐานดัชนีราคาหมวดยาสูบและแอลกอฮอล์ที่สูงในเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน เนื่องจากมีการปรับขึ้นค่าอากรแสตมป์ยาสูบประมาณ 10%YOY