ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.98/35.00 แกว่งแคบ จับตาประธานเฟดกล่าวสุนทรพจน์คืนพรุ่งนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday March 2, 2017 17:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 34.98/35.00 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัว จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 34.99 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ระหว่างวันทำ low ที่ระดับ 34.98 บาท/ดอลลาร์ และ high ที่ระดับ 35.00 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากวันนี้ไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามามีผลต่อตลาดมาก โดยตลาดรอดูนางเจนเน็ต เยนเลน ประธานธนาคาร กลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะกล่าวสุนทรพจน์ในงาน "Executives' Club of Chicago" ก่อนที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน ของเฟด (FOMC) จะประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 14-15 มี.ค.นี้

"วันนี้บาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบมาก ตลาดเงียบๆ ไม่มีปัจจัยอะไรสำคัญ คงรอดูนางเยนเลน กล่าวสุนทรพจน์คืนพรุ่ง นี้" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.95 - 35.03 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ช่วงเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 114.15/23 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 113.91 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0525/0535 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0539 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,569.94 จุด เพิ่มขึ้น 2.75 จุด (+0.18%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 44,532 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 515.42 ลบ.(SET+MAI)
  • ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยตั้งเป้าหมายเป็นศูนย์กลางการชำระเงินระหว่าง
ธนาคารในภูมิภาค (Regional Settlement Bank) เพื่อรองรับการค้าระหว่างประเทศของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และกลุ่ม
ประเทศ+3 คือ จีน, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ที่มีปริมาณสูงถึง 66 ล้านล้านบาทต่อปี และการค้าภายในเฉพาะภูมิภาคอาเซียน ที่มีมูลค่า
ถึง 20 ล้านล้านบาท ส่งผลให้มีอัตราการเติบโตของอย่างก้าวกระโดด ทำให้ภูมิภาคนี้มีความสำคัญทางเศรษฐกิจอีกภูมิภาคหนึ่งของ
โลก โดยคาดว่าจะมีปริมาณธุรกรรมการโอนเงินระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินอาเซียน+3 ผ่านธนาคาร 280,000 ล้านบาทต่อปี และ
เติบโต 11%
  • นางลาเอล เบรนาร์ด ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า ขณะนี้เศรษฐกิจสหรัฐดูมีแนวโน้มมั่นคงขึ้น
ทั้งในแง่ของการจ้างงานและเงินเฟ้อ ส่วนปัจจัยเสี่ยงจากต่างประเทศที่อาจกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐในอนาคตอันใกล้ก็ดูเหมือนจะลด
ลงแล้ว ซึ่งอาจสนับสนุนให้เกิดการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในเร็วๆ นี้
  • สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เปิดเผยผ่านรายงานประจำปีว่า รัฐบาลสหรัฐจะทำการเจรจาข้อตกลงทาง
การค้าฉบับใหม่กับกลุ่มประเทศในตลาดหลัก พร้อมระบุว่าข้อตกลงฉบับใหม่นี้จะต้องมีประสิทธิภาพและให้ความยุติธรรมกับแรงงาน
ชาวอเมริกันมากกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม แม้รายงานฉบับดังกล่าวจะไม่ได้ระบุชัดว่าสหรัฐจะเลือกเจรจาทำข้อตกลงกับประเทศใด
บ้าง แต่ก็มีแนวโน้มสูงว่า ญี่ปุ่นอาจเป็นหนึ่งในประเทศที่สหรัฐหมายตาเอาไว้

รายงานดังกล่าวระบุว่า การที่สหรัฐเลือกถอนตัวออกจากข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) เมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมานั้น ถือเป็นการปูทางไปสู่การเจรจาระดับทวิภาคีกับกลุ่มประเทศสมาชิก TPP ที่เหลืออยู่

  • ผลสำรวจของสภาหอการค้าอเมริกันในจีนใต้ ระบุว่า เกือบ 80% ของบริษัทต่างชาติที่ได้รับการสำรวจ ยังคงมีความ
เชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจีน ขณะเดียวกันรายงานระบุว่าจีนเผชิญสถานการณ์แข่งขันกับประเทศอื่นๆ ในเอเชียในการช่วงชิงการลง
ทุนจากต่างชาติ โดยสมาชิกหอการค้าสหรัฐได้ลดการลงทุนปี 2560 ลง 4.12% สู่ระดับ 1.26 หมื่นล้านดอลลาร์
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น รายงานว่า ฐานเงินของญี่ปุ่น (กระแสเงินสดและเงินฝากของสถาบันการเงินที่ฝากไว้กับธนาคาร
กลางญี่ปุ่น) ในเดือนก.พ.ร่วงลง 0.4% ซึ่งนับเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 โดยฐานเงิน ณ สิ้นสุดเดือนก.พ.อยู่ที่
433.66 ล้านล้านเยน (3.8 ล้านล้านดอลลาร์) ลดลง 0.4% จากเดือนก่อนหน้า
  • ตลาดการเงินทั่วโลกจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ที่
Executives' Club of Chicago ในวันพรุ่งนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยมีการคาดการณ์ว่า ประธานเฟดอาจส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตรา
ดอกเบี้ย
  • นักลงทุนติดตามข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการ

การว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือน ก.พ.โดยมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือน ก.พ. จาก

สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ