นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ร่วมหารือรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน นัดประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอย่างไม่เป็นทางการในเดือนมีนาคมนี้ ที่ประเทศฟิลิปปินส์ มุ่งหารือการดำเนินการที่สำคัญภายใต้แผนงานประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 2025 ที่ต้องดำเนินการในปี 2560 รวมทั้งเร่งผลักดันการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) พร้อมหารือร่วมกับสหภาพยุโรปประกาศการหารือในระดับภูมิภาค เพื่อการจัดทำกรอบแนวทางการเจรจาความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-สหภาพยุโรป
โดยในระหว่างวันที่ 8-10 มีนาคม 2560 รมว.พาณิชย์ มีกำหนดนำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (AEM Retreat) ครั้งที่ 23 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์
การประชุม AEM Retreat ในครั้งนี้จะมีการหารือประเด็นที่สำคัญ ได้แก่ ประเด็นด้านเศรษฐกิจ ที่ฟิลิปปินส์ในฐานะประธานอาเซียนในปี 2560 ให้ความสำคัญ เช่น การออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตัวเองของ MSMEs การพัฒนาตัวชี้วัดเพื่อวัดการดำเนินงานด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้าของอาเซียน การผลักดันให้ธุรกิจขนาดเล็กและรายย่อยสามารถร่วมอยู่ในห่วงโซ่มูลค่า (value chain) ของบริษัทขนาดใหญ่ และการออกปฏิญญาเกี่ยวกับแนวทางในเรื่องนวัตกรรมของอาเซียน
นอกจากนี้ รัฐมนตรีเศรษฐกิจจะร่วมรับรองแผนงานของอาเซียนในการจัดทำและสร้างความตระหนักรู้ในเรื่องแนวปฏิบัติที่ดีในการออกกฎระเบียบของอาเซียนที่จะใช้ใน 10 ปีต่อจากนี้ ซึ่งแนวทางดังกล่าว จะช่วยสร้างความโปร่งใสในการออกกฎหมายและช่วยส่งเสริมการลงทุนในอาเซียน โดยระหว่างประชุมครั้งนี้ไทยและเวียดนามจะลงนามพิธีสารเพื่อการแก้ไขความตกลงด้านการลงทุนอาเซียน (ACIA) ฉบับที่ 2 หลังจากที่ประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆ ได้ลงนามไปก่อนหน้านี้แล้ว
นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ จะพิจารณาให้แนวทางเพื่อให้ได้ข้อสรุปร่วมกันโดยเร็วในการเจรจาจัดทำความตกลง RCEP หรือความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค ซึ่งเป็นความตกลงการค้าเสรีระหว่างอาเซียนกับ 6 ประเทศคู่เจรจา FTA ได้แก่ จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ซึ่งหากการเจรจาความตกลงฯ สำเร็จได้ตามเป้าหมาย ก็จะนำไปสู่ตลาดที่ใหญ่ขึ้นด้วยขนาดประชากรกว่า 3.4 พันล้านคน การเชื่อมโยงเครือข่ายการผลิต การค้าและการลงทุน การปรับประสานกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้าให้สอดคล้องกัน ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุนของภาคเอกชนได้มากกว่าความตกลงฯที่มีอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งจะมีการหารือเพื่อให้แนวทางในการสรุปการเจรจาการค้าเสรีภายใต้กรอบอาเซียน + 1 อาทิ อาเซียน-ฮ่องกง ที่การเจรจามีความคืบหน้าไปมากแล้ว
ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนจะพบกับ H.E.Ms. Cecilia Malmström กรรมาธิการการค้าสหภาพยุโรป ในฐานะประเทศคู่เจรจาของอาเซียน เพื่อร่วมรับรองแผนงานด้านการค้าและการลงทุนอาเซียน-สหภาพยุโรป ฉบับใหม่สำหรับปี 2560-2561 ซึ่งจะเป็นการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าผ่านความร่วมมือในด้านต่างๆ ระหว่างอาเซียน-สหภาพยุโรป อีกทั้งจะมีการร่วมประกาศการหารือในระดับภูมิภาค (Region to Region) สำหรับการจัดทำกรอบแนวทางการเจรจาความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-สหภาพยุโรป (ASEAN-EU FTA) ที่ได้หยุดชะงักมาแล้วหลายปี
ปัจจุบัน อาเซียนเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทย โดยการค้าของไทยกับอาเซียนในปี 2559 มีมูลค่าประมาณ 9.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณร้อยละ 22 ของการค้าไทยกับทั่วโลก ทั้งนี้ ตลาดส่งออกและแหล่งนำเข้าสำคัญของไทยในอาเซียน ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์