นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า นานาชาติให้ความสนใจต่อระบบการบริหารการค้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (TCWMD) ของกรมการค้าต่างประเทศ ซึ่งเตรียมนำปรับใช้ ทั้งการสร้างความรู้ความเข้าใจในการพัฒนาระบบป้องกัน และความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐ หลังแนวโน้มปัญหาก่อการร้ายเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น เทคโนโลยีมีการพัฒนามากขึ้น ระบบควบคุมดูแลต้องตามให้ทัน ซึ่งปัจจุบันระบบของกรมฯ มีความพร้อมแล้ว
"เมื่อเร็ว ๆ นี้ กรมฯ ได้ส่งผู้แทนเข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการ Asian Export Control ครั้งที่ 24 ที่จัดโดยกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรม (METI) ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการประชุมแลกเปลี่ยนแนวคิดในการจัดทำระบบบริหารการค้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (TCWMD) โดยไทยได้นำเสนอรูปแบบการบริหารจัดการสินค้าอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (WMD) โดยเฉพาะสินค้าที่ใช้ได้สองทาง (DUI) ให้กับที่ประชุมได้พิจารณาว่ามีการบริหารจัดการอย่างไร มีรูปแบบการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างไร ซึ่งได้รับความสนใจและ ชื่นชมในแนวทางของไทยและสนใจที่จะนำรูปแบบของไทยไปปรับใช้กับระบบควบคุมของประเทศตนเอง" นางดวรพร กล่าว
ทั้งนี้ ในด้านการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ กรมฯ ได้จัดทำบันทึกความร่วมมือ (MOU) ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและสถาบันการศึกษา 9 แห่ง เพื่อร่วมมือกันทั้งทางด้านวิชาการ การจัดทำฐานข้อมูล การจำแนกสินค้าที่ใช้ได้สองทางที่อาจจะพัฒนาเทคโนโลยีเพิ่มมากขึ้น การสร้างความรู้ ความเข้าใจ และสร้างความตระหนักให้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นต่อนานาชาติ โดยเฉพาะคู่ค้าว่าไทยมีมาตรการควบคุมและยับยั้งการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง รวมทั้งป้องกันความเสี่ยงจากการก่อการร้าย ซึ่งจะช่วยให้คู่ค้ามีความมั่นใจในการทำการค้ากับไทยเพิ่มขึ้น
ส่วนในด้านการสร้างการรับรู้ กรมฯ ได้มีการลงพื้นที่เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการทั้งในกรุงเทพฯ และภูมิภาคต่างๆ เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ที่กำหนดให้สินค้าที่ใช้ได้สองทางเป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตและกำหนดสินค้าที่ต้องปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบในการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2558 ที่กำหนดให้ผู้ผลิต ผู้ส่งออก จะต้องขออนุญาตในการส่งออกสินค้าที่ใช้ได้สองทางตามบัญชีที่กำหนด และต้องขึ้นทะเบียนรับรองตนเองกรณีพิกัดศุลกากร (HS Code) 8 หลัก เข้าข่ายเป็น DUI แต่คุณสมบัติ (Specifications) ไม่เป็น DUI ตามบัญชีที่กำหนด โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2561 เป็นต้นไป รวมทั้งได้จัดทำสื่อในรูปแบบอินโฟกราฟฟิก เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งระบบทั้งระดับนโยบาย เจ้าหน้าที่ ผู้ประกอบการ และประชาชนทั่วไป และในวันที่ 2–3 มี.ค.ที่ผานมา กรมฯ ได้ร่วมมือกับกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (METI) จัดสัมมนาเรื่อง การบริหารการค้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์การก่อการร้ายได้ทวีความรุนแรงและเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และมีการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในการผลิตอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงมากขึ้น แม้ว่าประเทศต่าง ๆ จะมีระบบการบริหารจัดการสินค้าในกลุ่มนี้ แต่ก็ยังมีการจัดหาสินค้าที่ใช้ได้สองทางไปผลิตเป็นอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงได้อีก ก็ยิ่งทำให้ประเทศที่พัฒนาแล้วพัฒนาระบบดูแลให้เข้มงวดมากขึ้น และยังได้ผลักดันให้ประเทศต่าง ๆ รวมทั้งไทย มีการพัฒนาระบบเพื่อดูแลให้เข้มงวดขึ้นเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกรมฯ ได้มีการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อรองรับการบริหารการค้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (e-TCWMD) เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการในการปฏิบัติตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ โดยประกอบด้วย 3 ระบบหลัก คือ ระบบงานการจำแนกสินค้าด้วยตนเอง (e-Self Classification) ระบบงานการรับรองว่าสินค้าไม่เป็น DUI ด้วยตนเอง (e-Non-DUI Self certification) และระบบงานการขอใบอนุญาต (e-Licensing) และยังมีระบบสนับสนุนการพิจารณาสินค้าที่ใช้ได้สองทางผ่านวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ การแจ้งผลพิจารณาใบอนุญาตผ่าน SMS และ Email การชำระค่าธรรมเนียมผ่าน e-Payment และมีระบบเก็บสถิติการส่งออกโดยอัตโนมัติด้วย
นอกจากนี้ ยังได้ผลักดัน พ.ร.บ.การค้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ. ... ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบในหลักร่างแล้ว และปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนตามกระบวนการนิติบัญญัติ โดยหากกฎหมายมีผลบังคับใช้ จะทำให้ไทยสามารถกำกับดูแลสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยาย WMD ได้มีประสิทธิภาพ ครอบคลุมการส่งออก การเป็นคนกลาง การผ่านแดนและการถ่ายลำ และการกำกับดูแลสินค้าที่ จับต้องไม่ได้อย่างเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าดังกล่าวได้ดียิ่งขึ้น