นายอวยชัย กุลทิพย์มนตรี รองอธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้วไปร่วมพิธีทำลายของกลางฯ ว่า การทำลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้วในครั้งนี้ มีของกลางจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งสิ้น 3,639,679 ชิ้น โดยกรมศุลกากรได้รวบรวมของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้ว จากหน่วยงานในสังกัดกรมศุลกากร ได้แก่ สำนักงานศุลกากรกรุงเทพ สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง สำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าลาดกระบัง สำนักงานศุลกากรภาคที่ 1 (ด่านศุลกากรอรัญประเทศ) และสำนักสืบสวนและปราบปราม จำนวนทั้งสิ้น 623 แฟ้มคดี ปริมาณของกลาง 2,940,624 ชิ้น มูลค่าของกลาง 141,258,483 บาท
อนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติ มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะอนุกรรมการฯ ซึ่งมีการจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างเคร่งครัด และเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งในการดำเนินการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ในการผลักดันให้ประเทศไทยหลุดจากบัญชี Priority Watch List (PWL) จากการประเมินสถานการณ์คุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของประเทศคู่ค้า ภายใต้กฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษ (Special 301) ประจำปี 2560 ซึ่งมีการกำหนดจะประกาศผลในเดือนเมษายน 2560 ประธานคณะอนุกรรมการฯ จึงได้ให้กรมทรัพย์สินทางปัญญาจัดพิธีประชาสัมพันธ์และทำลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้วขึ้นในวันที่ 10 มี.ค.2560 ณ ลานอเนกประสงค์กองทัพภาคที่ 1 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์