นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีการขอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 เพื่อแก้ปัญหาสิทธิบัตรคงค้างที่มีการยื่นคำขอจดทะเบียนกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาไว้กว่า 36,000 คำขอว่า ขณะนี้ คสช.ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาในรายละเอียดต่างๆ เพื่อป้องกันและเยียวยาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะเกี่ยวกับสิทธิบัตรยาที่กลุ่ม NGOs แสดงความเป็นห่วงว่าหากมีการจดสิทธิบัตรยาได้เร็ว จะทำให้เจ้าของสิทธิบัตรขายยาในประเทศไทยในราคาแพงขึ้นได้ แต่ตนมองว่าราคายาที่เจ้าของสิทธิบัตรจะกำหนดราคาขายในไทย ไม่ใช่มาจากการอนุมัติคำขอจดทะเบียนสิทธิบัตรเท่านั้น แต่จะต้องมาจากเรื่องของต้นทุนด้วย
ด้านนายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า การขอใช้มาตรา 44 ในเรื่องดังกล่าว จุดประสงค์หลักเพื่อลดคำขอสิทธิบัตรที่ยังคั่งค้างอยู่จำนวนมาก ส่วนในประเด็นที่ NGOs กังวลว่าหากกรมฯ อนุมัติคำขอสิทธิบัตรยาแล้ว จะทำให้เจ้าของสิทธิบัตรยาใหม่ตั้งราคายาที่จะขายในไทยสูงมากนั้น เรื่องนี้คงไม่ต้องเป็นห่วง เพราะสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ระบุว่าสามารถต่อรองราคากับผู้ค้าได้อยู่แล้ว ซึ่งจะไม่ทำให้ผู้ใช้ยาได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน