นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมระดับรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-สหภาพยุโรป (AEM-EU) ครั้งที่ 15 ที่กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 10 มี.ค.2560 ที่ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินงานตามแผนงานด้านการค้าและการลงทุนฉบับปี 2558-2559 ซึ่งบรรลุผลการดำเนินงานตามเป้าหมาย รวมทั้งได้รับรองแผนงานด้านการค้าการลงทุนฉบับใหม่สำหรับปี 2560-2561 เพื่อใช้เป็นแนวทางการดำเนินความสัมพันธ์ร่วมกันต่อไป
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมามีบริบททางการค้าโลก การปรับเปลี่ยน ส่งผลให้ประเด็นการค้าเดิมมีความซับซ้อนมากขึ้น รวมทั้งมีการเชื่อมโยงกับประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้าใหม่ๆ แผนงานฉบับใหม่นี้จึงได้ระบุประเด็นสำคัญที่ผู้เชี่ยวชาญของสองภูมิภาคจะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และความเห็นระหว่างกัน เพื่อสร้างเสริมศักยภาพให้กับอาเซียน ได้แก่ กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า การค้าอิเล็กทรอนิกส์ นวัตกรรม การจัดซื้อจัดจ้าง การลงทุน รวมทั้งพลังงานและวัตถุดิบ เป็นต้น
นางอภิรดี กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ สองฝ่ายตกลงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียน-สหภาพยุโรป เริ่มการหารืออย่างเป็นทางการ เพื่อจัดทำร่างกรอบกำหนดตัวแปรสำหรับ FTA อาเซียน-สหภาพยุโรป และให้นำมาเสนอระดับรัฐมนตรีในการประชุมครั้งต่อไป สำหรับการพิจารณาการรื้อฟื้นการเจรจา FTA อาเซียน-สหภาพยุโรป ซึ่งนับเป็นความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรม ภายหลังจากตลอด 2 ปีที่ผ่านมา อาเซียนและสหภาพยุโรปได้ทำงานร่วมกันเพื่อพิจารณาความพร้อมในด้านต่างๆ ทั้งระดับการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอาเซียน ระดับความเข้มข้นในการจัดทำ FTA กับประเทศภาคีของแต่ละฝ่าย รวมถึงความคาดหวังสำหรับ FTA อาเซียน-สหภาพยุโรป ซึ่งการเริ่มหารือระดับเจ้าหน้าที่ครั้งนี้ ไทยเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ที่สองฝ่ายจะเห็นความเป็นไปได้ที่จะบรรลุผลการเจรจาหากมีการรื้อฟื้นการเจรจา FTA ระหว่างสองภูมิภาค ที่หยุดชะงักไปตั้งแต่ปี 2552
ทั้งนี้ อาเซียนนับเป็นภูมิภาคที่นักธุรกิจยุโรปให้ความสำคัญ โดยจากผลการสำรวจความเห็นของนักธุรกิจยุโรปที่ทำธุรกิจในอาเซียนของปี 2559 พบว่า นักธุรกิจยุโรปที่ทำธุรกิจในอาเซียน 74% เห็นว่าการลงทุนในอาเซียนมีส่วนสำคัญต่อผลกำไรที่จะเพิ่มขึ้นจากทั่วโลกในอีก 5 ปีข้างหน้า ในขณะที่ 85% มีแผนที่จะเพิ่มระดับการค้าการลงทุนในอาเซียนอีก 5 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ 66% เชื่อว่าสหภาพยุโรปควรจัดทำ FTA ระดับภูมิภาคกับอาเซียน
อย่างไรก็ดี ในปี 2559 การค้าสองฝ่ายมีมูลค่าสูงถึง 208,000 ล้านยูโร และสหภาพยุโรปมีมูลค่าการลงทุนโดยตรงในอาเซียนสูงถึง 23,300 ล้านยูโร ในปี 2558