นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เตรียมทีมงานเพื่อประสานงานกับทางกัมพูชา ที่จะเป็นเจ้าภาพจัดงาน “CLMVT Forum 2017" ในเดือนก.ย.นี้ที่กรุงพนมเปญ ทั้งในด้านสาระที่ควรทำต่อ และด้านพิธีการจัดงาน หลังจากที่ไทยได้จัดการประชุม CLMVT Forum 2016 เพื่อนำเสนอแง่มุมที่น่าสนใจของภูมิภาคต่อธุรกิจขนาดใหญ่ของโลก รวมไปถึง SMEs และ Startups ด้วย ซึ่งงานในปีที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
ท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบันที่หลายประเทศในโลกล้วนเผชิญกับปัญหาด้านเศรษฐกิจ แต่ภูมิภาค CLMV ยังมีการเจริญ เติบโตทางเศรษฐกิจในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลก กล่าวคือ ในปี 58 GDP ของ 4 ประเทศขยายตัวระหว่าง 6-8% นับว่าไทยและทั้ง 4 ประเทศอยู่ในจุดที่เป็นความหวังของเอเชีย และกำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ห้วงเวลาที่น่าตื่นเต้นและมีศักยภาพเป็นอย่างมาก
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สำหรับประเด็นที่ฝ่ายไทยจะเสนอแนะให้กัมพูชาพิจารณาคือ การขยายการเชื่อมโยงในระดับภูมิภาค (Connectivity) ซึ่งนอกจากการเชื่อมโยงทางโครงสร้างพื้นฐาน และด้านกฎระเบียบแล้ว ประเด็นหนึ่งที่กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญคือ การเชื่อมโยงระหว่างประชาชน (People-to-People Connectivity) ซึ่งเน้นการส่งเสริมความร่วมมือด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ร่วมกันในภูมิภาค โดยเรื่องนี้เป็นผลการประชุมส่วนหนึ่งจากปี 2559 ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการจัดทำ/ดำเนินการโครงการต่างๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคแก่ประเทศ CLMV อาทิ การอบรม เรื่อง การวางแผนและการจัดการขนส่งและโลจิสติกส์อย่างยั่งยืน (Sustainable Transport and Logistics Planning and Management), การจัดฝึกอบรมเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ภายใต้สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (New Economy Academy : NEA), และการสร้างเครือข่ายระหว่างภาคเอกชนผ่านโครงการ YEN-D เป็นต้น รวมทั้งอยู่ระหว่างการหารือกับหน่วยงานภายนอกและองค์การระหว่างประเทศในการจัดทำโครงการร่วมกัน เพื่อการพัฒนาบุคลากรในภูมิภาค โดยล่าสุดสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า ได้หารือกับธนาคารโลก (World Bank) เพื่อจัดทำโครงการร่วมกันในลักษณะ Multi Countries Project
ทั้งนี้ ในภาพรวมสาขาที่สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้ามองเห็นว่า CLMVT มีศักยภาพสูง ในการพัฒนาความร่วมมือร่วมกัน อาทิ ด้านการเกษตรสมัยใหม่ (Smart Agriculture) การขับเคลื่อนด้วยดิจิทัล (Digital Transformation) และการพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership) ในด้านการผลิตและภาคบริการ (Manufacturing and Services Excellence) เนื่องจากภูมิภาคนี้มีความโดดเด่นด้านทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีแรงงานจำนวนมาก และมีภาคบริการอีกหลายสาขาที่สามารถขับเคลื่อนได้ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเร่งพัฒนาสานความสัมพันธ์และความร่วมมือทุกด้านต่อไป