นายเมธี สุภาพงษ์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวภายหลังจากที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% มาสู่ระดับ 0.75-1.00% ในการประชุมวานนี้ ซึ่งเป็นได้ตามที่ตลาดคาดการณ์ว่า ในส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยนั้น ธปท.มองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% ยังอยู่ในระดับที่ผ่อนคลายและเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งหากจะพิจารณาผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม จะต้องดูว่าผลประโยชน์ที่มีต่อเศรษฐกิจจะมากกว่าผลกระทบด้านลบอื่นๆ หรือไม่ อาทิ ผลต่อการออมของประชาชนในภาวะดอกเบี้ยต่ำ และผลต่อเสถียรภาพการเงินของประเทศ
นอกจากนี้ มองว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปได้กลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในเดือนธ.ค.ของปีที่แล้ว และมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น อีกทั้งอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะปานกลางของสาธารณชน ยังอยู่ในระดับใกล้เคียงกับค่ากลางของกรอบเป้าหมาย ธปท. จึงยังไม่เห็นความเสี่ยงที่ประเทศไทยจะติดกับดักภาวะเงินเฟ้อต่ำ โดยสะท้อนจากเครื่องชี้วัดในตลาดสินค้าและแรงงานของไทย ประกอบกับกับเศรษฐกิจที่กำลังอยู่ในระยะฟื้นตัว
"ความกังวลต่อ global disinflationary shock ได้ลดลง และเริ่มเห็นสัญญาณของ global reflation แล้ว จากที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกและผลตอบแทนตราสารหนี้ที่ปรับสูงขึ้น ดังนั้น ธปท. จึงมองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1.5% ยังอยู่ในระดับที่ผ่อนคลายและเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ" นายเมธี ระบุ