นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามที่ได้มอบนโยบายด้านการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านให้ผู้บริหารทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อเร่งผลักดันมูลค่าการค้าชายแดนให้ไปสู่เป้าหมาย 1.8 ล้านล้านบาท ในปี 2560 นั้น นอกจากจะให้สนับสนุนการค้าด่านถาวรแล้ว ยังเห็นความสำคัญของการค้าชายแดนจุดผ่อนปรนและช่องทางธรรมชาติอีกด้วย เพื่อให้ประชาชนในท้องถิ่นที่มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านได้มีการทำมาค้าขายระหว่างกันเป็นการสร้างงานสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดในพื้นที่จังหวัดชายแดนให้ความสำคัญในการบูรณาการร่วมกันทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน
สำหรับการค้าชายแดนระหว่างไทยกับ สปป.ลาว ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านใกล้ชิดกับไทย มีภาษาและวัฒนธรรมคล้ายคลึงกัน มีการค้าขายระหว่างกันผ่านด่านชายแดนในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสานรวม 12 จังหวัด มีมูลค่าการค้าชายแดนระหว่างกันกว่า 200,000 ล้านบาท โดยในปี 2559 ประเทศไทยได้ดุลการค้า สปป.ลาวกว่า 69,000 ล้านบาท มีการค้าขายกันตั้งแต่ของใช้ในชีวิตประจำวันทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค ไปจนถึงสินค้าอุตสาหกรรม เช่น รถยนต์ น้ำมันเชื้อเพลิง วัสดุก่อสร้างเป็นต้น
ด้านนายชาญยุทธ วันดี พาณิชย์จังหวัดบึงกาฬเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2560 จังหวัดบึงกาฬเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมคณะผู้บริหารระดับสูง 3 ประเทศ 9 จังหวัด ที่ใช้ถนนหมายเลข 8 และหมายเลข 12 (ไทย-ลาว-เวียดนาม) ครั้งที่ 20 และในโอกาสนี้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับหอการค้าจังหวัดบึงกาฬ ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จัดประชุมเจรจาจับคู่ธุรกิจการค้า(Business Matching) ระหว่างนักธุรกิจของทั้ง 3 ประเทศ 9 จังหวัด ผลสำเร็จในการดำเนินการเจรจาจับคู่ธุรกิจในครั้งนี้ คือได้มีการบันทึกความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนระหว่างกัน จำนวน 26 ฉบับ รวม 12 ประเภทธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจท่องเที่ยว,โรงแรม, เครื่องสำอาง, โลจิสติกส์, ค้าปลีก ค้าส่ง, อุตสาหกรรมพลังงาน, วัสดุก่อสร้าง (หิน ทราย และอื่นๆ), การให้บริการนำเข้า-ส่งออก, วัสดุและปัจจัยทางการเกษตร, อาหารและผลิตภัณฑ์แปรรูป, ผลิตภัณฑ์กระเป๋าหนัง เป็นต้น มูลค่าการเจรจาธุรกิจกว่า 150 ล้านบาท
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้บรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งสมาคมธุรกิจส่งออก นำเข้า วัสดุก่อสร้าง หิน และอื่นๆ ระหว่างจังหวัดบึงกาฬ-แขวงบอลิคำไซ-แขวงคำม่วน รวมทั้งการจัดสร้างเครือข่ายผ่านสื่อออนไลน์ กลุ่ม line Application และ Facebook : 3C9P Thai-Laos-Vietnam เพื่อเป็นการสื่อสารด้านการดำเนินธุรกิจระหว่างกันต่อไป ซึ่งการค้าชายแดนระหว่างจังหวัดบึงกาฬกับแขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว ขณะนี้ประชาชนยังต้องเดินทางและขนส่งสินค้าโดยทางเรือและแพขนานยนต์ (เนื่องจากยังไม่มีสะพานข้ามแม่น้ำโขง) มีมูลค่าการค้ากว่า 3,000 ล้านบาท
"หากมีการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงเชื่อมระหว่าง 2 พื้นที่ดังกล่าว คาดว่าการค้าชายแดนระหว่างกันจะเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก" นางอภิรดี กล่าว