นายกีรติ รัชโน รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า จากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ได้เห็นชอบให้คณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสต็อกของรัฐ ออกประกาศจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 1/2560 ปริมาณ 3.66 ล้านตัน จำนวน 278 คลัง
โดยเมื่อวันที่ 20 มี.ค. ได้มีผู้สนใจยื่นซองเอกสารคุณสมบัติผู้เสนอซื้อ จำนวน 19 ราย และจากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานและคุณสมบัติของผู้เสนอซื้อ ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมโรงงานอุตสาหกรรม ปรากฏว่ามีผู้ผ่านคุณสมบัติผู้เสนอซื้อเบื้องต้นทั้งหมด 19 ราย ซึ่งกรมฯ ได้ประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติผู้เสนอซื้อเบื้องต้นดังกล่าวในวันนี้ เวลา 09.00 น. และในวันเดียวกันนี้ ตั้งแต่เวลา 09.00 - 12.00 น. ผู้ที่ผ่านคุณสมบัติผู้เสนอซื้อเบื้องต้นสามารถยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 1/2560
โดยผลจากการเปิดซองเสนอราคาซื้อในช่วงบ่าย ปรากฏว่ามีผู้สนใจมายื่นซองจำนวน 16 ราย โดยมีผู้เสนอราคาซื้อสูงสุด จำนวน 15 ราย ใน 157 คลัง ปริมาณ 2.07 ล้านตัน (คิดเป็น 56.50% ของปริมาณที่เปิดประมูลทั้งหมด) มูลค่าที่เสนอซื้อประมาณ 9,205 ล้านบาท โดยช่วงราคาเสนอซื้อสูงสุด 1,880 - 5,100 บาท/ตัน ซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ พลังงานไฟฟ้า อบเมล็ดพันธุ์พืช โรงสี และกรดมะนาว สำหรับชนิดข้าวที่มีผู้เสนอราคาซื้อมากที่สุดเป็นข้าวขาว 5% ปริมาณ 1.56 ล้านตัน คิดเป็น 42.5% รองลงมาได้แก่ ปลายข้าว A1เลิศ ปริมาณ 0.18 ล้านตัน คิดเป็น 5%
ในขั้นตอนต่อไป กรมฯ จะดำเนินการประมวลผลการยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 1/2560 เข้าที่ประชุมคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสต็อกของรัฐ และคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว ก่อนเสนอประธานกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) พิจารณาให้ความเห็นชอบการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐต่อไป
นายกีรติ กล่าวว่า ตามแผนการเปิดระบายสต็อกข้าวรัฐบาลที่ได้รับความเห็นชอบจาก นบข.นั้น ในเดือนเม.ย.นี้ จะนำข้าวกลุ่ม 3 หรือข้าวที่เก็บเกิน 5 ปีขึ้นไปที่ไม่เหมาะสมทั้งการบริโภคของคนและสัตว์ต้องเข้าสู่อุตสาหกรรมพลังงานเท่านั้น ปริมาณ 1.8 ล้านตัน มาเปิดประมูล ส่วนในเดือนพ.ค.จะนำข้าวที่เหลือในกลุ่ม 1 คือ ข้าวเกรด P, A และ B (ข้าวผ่านมาตรฐาน) ที่มีข้าวเกรดC (ข้าวเสื่อมคุณภาพ) ปนไม่เกิน 20% และคนสามารถบริโภคได้ ซึ่งเหลืออยู่ 1.5 ล้านตัน มาเปิดประมูลทั่วไป
ขณะที่เดือน มิ.ย.จะนำข้าวกลุ่ม 2 หรือข้าวที่เข้าสู่อุตสาหกรรมมิใช่คนบริโภคที่เหลือจากกประมูลเมื่อวันที่ 23 มี.ค. มาเปิดประมูลอีกครั้ง รวมถึงจะนำข้าวกลุ่ม 3 ที่จะเปิดประมูลในเดือนเม.ย. มาเปิดประมูลอีกครั้งในเดือนก.ค.นี้ หากระบายในเดือนเม.ย.ไม่หมด
สำหรับการระบายสต็อกข้าวรัฐบาลทั้งหมด 18 ล้านตัน นับตั้งแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) บริหารประเทศจนถึงล่าสุด สามารถระบายข้าวไปแล้ว 10 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 103,000 ล้านบาท โดยยังไม่รวมข้าวที่กำลังทยอยระบายในปีนี้ เชื่อว่า ภายในปี 60 รัฐบาลน่าจะระบายข้าวออกจากสต็อกได้หมด
ส่วนการส่งออกข้าวไทยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-21 มี.ค.60 ส่งออกแล้ว 2.6 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 2.7% เทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา มูลค่า 38,000 ล้านบาท ลดลง 1%