ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 34.31 แข็งค่ารอบ 20 เดือน รับเม็ดเงินไหลเข้าต่อเนื่อง มองกรอบวันนี้ 34.25-34.35

ข่าวเศรษฐกิจ Monday April 3, 2017 09:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.31 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า จากช่วงปิดตลาดเย็นวันศกร์ที่ระดับ 34.37 บาท/ดอลลาร์ ส่งผลให้บาทแข็งค่ามากสุดในรอบ 20 เดือน เนื่องจากมีเงินทุนจากต่าง ประเทศไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ค่าเงินในภูมิภาคเคลื่อนไหวแบบผสมผสาน

"บาทแข็งค่าจากเย็นวันศุกร์ เนื่องจากยังคงมี flow ไหลเข้ามาต่อเนื่อง ถึงแม้แบงก์ชาติจะออกข้อกำหนดเพื่อลดวง เงินลงทุนในตลาดพันธบัตรแต่ยังไม่ได้ผล โดยบาททำ new low ในรอบ 20 เดือน" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินฯ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 34.25-34.35 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนเช้านี้อยู่ที่ระดับ 111.30 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 111.88 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0675 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.0691 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.4500 บาท/
ดอลลาร์
  • กระทรวงพาณิชย์ แถลงดัชนีราคาผู้บริโภค ประจำเดือนมีนาคม 2560
  • ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์นี้ (3-7 เม.ย.) ที่ 34.30-34.60 บาทต่อ
ดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจของตลาดในประเทศน่าจะอยู่ที่กระแสฟันด์โฟลว์ หลังจากที่ธปท. ลดวงเงินการออกพันธบัตรธปท. ลงซึ่งเป็น
เครื่องมือหนึ่งในการดูแลความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ดัชนี PMI ภาคการผลิตและ ภาคบริการเดือนมี.ค. และยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนก.พ. นอกจากนี้ นักลงทุนอาจรอประเมินสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มดอกเบี้ย สหรัฐฯ เพิ่มเติมจาก FOMC Minutes และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดด้วยเช่นกัน

  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยสถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทยปี 2559 สะท้อนภาพการชะลอความร้อนแรงลงจากปีก่อน เนื่อง
จากสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีปรับตัวลงราว 1.3% จากปี 2558 มาที่ระดับ 79.9% ต่อจีดีพี (ปี 2558 อยู่ที่ระดับ 81.2%) อันเป็น
ผลจากหนี้ครัวเรือนที่เติบโตในอัตราที่ต่ำกว่าการขยายตัวของจีดีพี ตามหลายปัจจัยกดดัน
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชี้สถานการณ์หนี้ครัวเรือนของไทยยังไม่น่าห่วง คาดครึ่งหลังของปีนี้ระดับหนี้ครัว
เรือนต่อจีดีพีลดลงอย่างชัดเจนจากภาวะเศรษฐกิจช่วยหนุน ล่าสุดระดับหนี้ครัวเรือนแตะ 79.9% ณ สิ้นปี 59 และยอดคงค้างหนี้ครัว
เรือนในระบบแตะ 11.47 ล้านบาท ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี
  • กระทรวงพาณิชย์ คาดกฎหมายแข่งขันทางการค้าฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้เดือน ก.ย.นี้ หลัง สนช.ผ่านร่าง 3 วาระ
แล้ว ลั่นเพิ่มเขี้ยวเล็บ บอร์ดแข่งขัน หลังมีอำนาจใช้โทษทางปกครองหยุดพฤติกรรมแข่งขันไม่เป็นธรรม
  • ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หลังจาก 3 กรมภาษี ประกอบด้วย กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรม
ศุลกากร ส่งแผนการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีปีงบประมาณ 2560 มาให้กระทรวงการคลังพิจารณาเห็นชอบ พบว่ายังมีช่องโหว่
ที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้มากขึ้นได้อีก ดังนั้นกระทรวงการคลังจึงสั่งการให้ทั้ง 3 กรมภาษีกลับไปทบทวนแผนเพิ่มเติม และส่งมา
ให้กระทรวงการคลังพิจารณาอีกครั้ง
  • สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เตรียมหารือกับสมาชิกกลุ่มชิ้นส่วนฯ เพื่อจับตาความเคลื่อนไหวพร้อม
ผลกระทบจากการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้ออกคำสั่งพิเศษ 2 ฉบับ เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ให้หาสาเหตุที่ทำ
ให้สหรัฐขาดดุลการค้ามหาศาลจาก 16 ประเทศ ทั้งในเอเชีย ยุโรปตะวันออก อาเซียน รวมทั้งไทย ว่าเกิดจากสาเหตุใดโดยให้
เวลาศึกษา 90 วันจะต้องได้ผลสรุป
  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน ขยายตัวที่ระดับ 51.2 ในเดือนมี.
ค. ชะลอลงจาก 51.7 ในเดือนก.พ.
  • ธนาคารกลางจีนประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อโครงการเงินกู้ระยะสั้น (SLF) ซึ่งเป็นเครื่องมือในการสนับ
สนุนสภาพคล่องสำหรับสถาบันการเงิน ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย SLF แบบข้ามคืน 0.2% สู่ระดับ 3.3% และปรับ
ขึ้นอัตราดอกเบี้ย SLF ระยะ 7 วัน และ 1 เดือน สู่ระดับ 3.45% และ 3.80% ตามลำดับ
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมี.ค.ในวันศุกร์นี้ ขณะที่โพลล์สำรวจความคิดเห็นของนัก
วิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนมี.ค.จะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่ง
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (31 มี.ค.) หลังสหรัฐ
เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการ โดยดอลลาร์อ่อนค่าเทียบเยนแตะที่ 111.28 เยน จาก 111.58 เยน ส่วนยูโรทรงตัวเมื่อ
เทียบดอลลาร์ที่ระดับ 1.0685 ดอลลาร์
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (31 มี.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง หลังสหรัฐ
เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการ รวมถึงการใช้จ่ายของผู้บริโภคเดือนก.พ. ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐ เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนก.พ. โดยขยับขึ้น
0.1% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีทีแล้ว หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนม.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อน
หน้านี้ว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ.
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนก.
พ. หลังจากพุ่งขึ้น 0.4% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน
  • ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐอยู่ที่ระดับ 96.9 ในเดือนมี.ค. โดยต่ำ
กว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ 97.6 แต่สูงกว่าระดับ 96.3 ของเดือนก.พ.
  • รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า เขาจะเข้าร่วมการเจรจาเศรษฐกิจสหรัฐ-ญี่ปุ่น ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุง
โตเกียว ในวันที่ 18 เม.ย.นี้ โดยจะร่วมกับนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ ในการเจรจาเรื่องการลงทุนในโครงสร้างพื้น
ฐาน กฎหมายการค้า และนโยบายเศรษฐกิจมหภาค
  • นักลงทุนจับตาสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.ในวันศุกร์ รวมถึงการพบกันครั้งแรกระหว่าง

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ในวันที่ 6 เม.ย.นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ