พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานพิธีเปิดการเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สำโรง พร้อมโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส จากสถานีสำโรง ไปสถานีแบริ่ง จำนวน 1 สถานีด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการรถไฟฟ้าจะมีส่วนช่วยแบ่งเบาภาระของผู้มีรายได้น้อย และดูแลคนทุกกลุ่ม เพื่อแก้ปัญหาจราจรในพื้นที่ กทม. และช่วยลดเวลาการเดินทาง ทำให้สังคมมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ขณะเดียวกันโครงการรถไฟฟ้าถือเป็นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ทำให้เกิดความเชื่อมโยงกับการก่อสร้างที่เน้นใช้วัสดุในประเทศที่มีคุณภาพและปลอดภัย ที่สำคัญเป็นการเชื่อมโยงเส้นทางระหว่าง กทม.กับจังหวัดสมุทรปราการ ทำให้พื้นที่ตลอดเส้นทางจะมีการพัฒนาและการลงทุนเป็นพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ เช่นเดียวกับการก่อสร้างรถไฟทางคู่และรถไฟไทยจีนที่ตลอดเส้นทางต้องสร้างรายได้ให้กับประเทศ และประโยชน์สุขให้กับประชาชนทุกคน และเชื่อมโยงการขนส่งทุกจุด โดยให้กรุงเทพฯมีการเจริญเติบ และเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้
ทั้งนี้ หลังจากนายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมระบบควบคุมการเดินรถแล้วได้ทดลองนั่งรถไฟฟ้าบีทีเอส จากสถานีสำโรงไปยังสถานีแบริ่ง 1 สถานี โดยได้ประกาศผ่านลำโพงในขบวนรถว่า "ท่านผู้โดยสารอีก 6 นาทีรถไฟฟ้าจะออกเดินทาง" ก่อนจะลงที่สถานีแบริ่งเพื่อเดินทางกลับทำเนียบรัฐบาล
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า กทม.จะเปิดให้บริการประชาชน โดยไม่เก็บค่าโดยสารไปจนถึงวันที่ 30 เม.ย. เพื่อให้ประชาชนเดินทางได้อย่างสะดวก บรรเทาปัญหาจราจรในเขตบางนาและสมุทรปราการ โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการสถานีต่าง ๆ ตลอดเส้นทางเต็มระบบภายในปี 61
นายสุธน อาณากุล รองผู้อำนวยการ สำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า เส้นทางเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ได้เชื่อมต่อจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสที่สถานีแบริ่งไปตามแนวเกาะกลางสุขุมวิทจนถึงจุดสิ้นสุดโครงการบริเวณหน้าสถานีไฟฟ้าย่อยบางปิ้ง โดยครอบคลุมพื้นที่ 3 เทศบาลของจ.สมุทรปราการ ได้แก่เทศบาลสำโรงเหนือ เทศบาลสมุทรปราการและเทศบาลบางปู ระยะทาง 13 กม. มีจำนวน 9 สถานี มูลค่าการลงทุน ทั้งโครงการรวม 27,673 ล้านบาท แบ่งเป็นงานด้านงานโยธาและงานระบบราง 21,085 ล้านบาทและงานด้านติดตั้งระบบเดินรถ 6588 ล้านบาท โดยมีอาคารจอดแล้วจรบริเวณหน้าสถานีปลายทาง สถานีเคหะสมุทรปราการ ริมถนนสุขุมวิท เนื้อที่ประมาณ 18 ไร่ สามารถจอดรถได้ 1,200 คันและมีศูนย์ซ่อมบำรุงตั้งอยู่บริเวณหลังสถานีรถไฟฟ้าย่อยบางปิ้ง รวมพื้นที่ประมาณ 123 ไร่
สำหรับอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงสำโรง-สมุทรปราการ คาดว่าจะเก็บในอัตราไม่ต่ำกว่า 15 บาท/เที่ยว โดยจะมีการหารือกันอีกครั้งคาดว่าจะได้ข้อสรุปอัตราโดยสารก่อนสิ้น เม.ย.60
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ทาง กทม.ได้ปรับขึ้นค่ารถโดยสารส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีลม สถานีโพธิ์นิมิตรถึงสถานีบางหว้า และส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสุขุมวิท สถานีบางจากถึงสถานีแบริ่ง เป็น 15 บาท/เที่ยว
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรี ได้ให้นโบายให้กทม.เปิดฟรีให้ประชาชนทดลองนั่ง 1 สถานีจากสถานีแบริ่ง-สถานีสำโรงไปจนถึงสิ้นปีนั้น ทางฝ่ายบริหารจะไปหารือร่วมกันเพื่อตอบสนองนโยยายของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้ประชาชนได้มีโอกาสเดินทางได้สะดวก
นายสุธน กล่าวว่า ในส่วนงบที่จะรับโอนสินทรัพย์หรือส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สำโรง มูลค่ากว่า 6 หมื่นล้านบาทจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) นั้นได้ส่งให้กระทรวงมหาดไทยให้ขอรัฐบาลช่วยเหลืองบส่วนนี้แทน ขณะที่ค่าเช่าราง นส่วนต่อขยายดังกล่าวที่รฟม.จะตัดเก็บจากกทม.เดือนละ 8 ล้านบาทนั้น กทม.จะทำเรื่องขอยืมการใช้รางไปก่อน