นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานครบรอบ 50 ปี ของการจัดตั้งธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและ ADB (The ADB’s 50th Anniversary Celebrating a Partnership Between ADB and Thailand) ว่า ADB ต้องการช่วยขับเคลื่อนให้ไทยเดินหน้าได้ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยจะเน้นให้การสนับสนุนด้านอุตสาหกรรมต่างๆ ของไทยให้มีมูลค่าสูงขึ้น ผ่านการพัฒนาด้านต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้ประเทศไทยเดินหน้าสู่เป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
"ADB มีประสบการณ์ค่อนข้างมากในการพัฒนาประเทศที่มีเศรษฐกิจคล้ายๆ เรา โดยจะดำเนินการผ่านการให้ความรู้ ซึ่ง ADB ได้เรียนรู้มาจากประสบการณ์ทั้งหมด จึงถือเป็นเรื่องที่ดี และมีประโยชน์กับไทยอย่างมาก" รมว.คลังกล่าว
พร้อมระบุว่า ในระยะต่อไปประเทศไทยยังมีความต้องการที่จะกู้เงินจาก ADB เนื่องจากยังมีแผนลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญอีกหลายโครงการ ซึ่ง ADB ก็ต้องการที่จะเข้ามาร่วมในส่วนนี้ด้วย ดังนั้นที่ผ่านมาจึงมีการปรับเงื่อนไขการกู้เงินให้ง่ายขึ้น และเป็นประโยชน์กับไทยมาก
นายสตีเฟน กรอฟ รองประธาน ADB เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังคงเดินหน้าสู่การพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ADB หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ร่วมงานอย่างใกล้ชิดมากขึ้นกับประเทศไทย และยืนยันว่าจะยังให้การสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนและมีส่วนร่วม โดยใช้เครื่องมือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สะอาดและมีเทคโนโลยีล้ำสมัย ความร่วมมือของภาครัฐและภาคเอกชน นวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ และความร่วมมือการบูรณาการในภูมิภาค
อย่างไรก็ดี ADB ได้ให้ความช่วยเหลือด้านการเงินและความรู้ทางวิชาการแก่ประเทศไทยมากว่า 50 ปี คิดเป็นวงเงินประมาณ 8,000 ล้านดอลลาร์ ในสาขาการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคม พลังงาน การจัดสรรน้ำสะอาด ภาคเกษตร การพัฒนาภาคการเงิน รวมถึงความร่วมมือและการบูรณาการในภูมิภาค