นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.34 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก ช่วงเช้าที่ระดับ 34.31 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.28-34.35 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากมีแรงซื้อ ดอลลาร์จากผู้นำเข้า
"บาทอ่อนค่าจากช่วงเช้าเล็กน้อย หลังมีแรงซื้อดอลลาร์จาก Importer เข้ามา และแบงก์ชาติอาจเข้ามาดูเป็น ระยะๆ เนื่องจากบาทแข็งค่าเร็วมาก หากปล่อยให้แข็งค่าลงไปอีกจะส่งผลกระทบต่อการส่งออก" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 34.30-34.40 บาท/ดอลลาร์
"ปัจจัยที่ตลาดมองน่าจะเป็นตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐที่จะประกาศในช่วงสุดสัปดาห์ ส่วนนโยบายของทรัมป์นั้นตลาด มองว่าเริ่มมีความสับสน" นักบริหารเงิน กล่าว
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนเช้านี้อยู่ที่ระดับ 111.36 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 111.30 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0660 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0675 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,580.86 จุด เพิ่มขึ้น 5.75 จุด, +0.37% มูลค่าการซื้อขาย 31,184.45 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,293.79 ล้านบาท(SET+MAI)
- กระทรวงพาณิชย์ แถลงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือน มี.ค.60 อยู่ที่ 100.33 ขยายตัว 0.76% เมื่อเทียบกับ
มี.ค.59 แต่หดตัว -0.46% หากเทียบกับเดือนก่อนหน้า (ก.พ.60) มีผลให้ CPI เฉลี่ยช่วง 3 เดือนแรกขยายตัว 1.25%
- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) วิเคราะห์ว่า แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค.60 จะ
ลดลง จากราคาน้ำมันดิบที่ชะลอลงกว่าที่คาด และค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในช่วงต้นปี แต่อีไอซีมองว่าอุปสงค์ในประเทศจะทยอยฟื้นตัว
ขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป รวมทั้งราคาน้ำมันดิบก็ยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงกว่าปีก่อน คาดว่าเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 55 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อ
บาร์เรล (เบรนท์) ถือเป็นการเพิ่มขึ้น 28% YOY จากปีก่อน และค่าเงินบาทก็ยังมีแนวโน้มอ่อนค่าลงไปที่ประมาณ 36-37 บาทต่อ
ดอลลาร์สหรัฐฯ ณ สิ้นปี 2560 ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยเร่งตัวขึ้นเฉลี่ยทั้งปีที่ 1.9%YOY
- กระทรวงพาณิชย์ ปรับเป้าหมายเงินเฟ้อของปีนี้เฉพาะในกรอบบนเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 - 2.2% จากเดิม 1.5 -
2.0% เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจากการควบคุมกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปค ขณะที่คาดว่าความต้อง
การน้ำมันดิบทั่วโลกในปีนี้สูงขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล/วัน ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไป
- รมว.คลัง กล่าวถึงกรณีที่มีเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามากจนกระทั่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องปรับ
ลดวงเงินการออกพันธบัตรระยะสั้นว่า ภาวะเงินไหลเข้ายังอยู่ในวิสัยที่ ธปท.สามารถจะดูแลได้ ซึ่งอาจจะมีการออกมาตรการมาดูแล
เพิ่มเติม
- รมว.คลัง เปิดเผยว่า ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ต้องการช่วยขับเคลื่อนให้ไทยเดินหน้าได้ตามนโยบายไทย
แลนด์ 4.0 โดยจะเน้นให้การสนับสนุนด้านอุตสาหกรรมต่างๆ ของไทยให้มีมูลค่าสูงขึ้น ผ่านการพัฒนาด้านต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้ประเทศ
ไทยเดินหน้าสู่เป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- รมว.คลัง คาดว่า การลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยเพื่อรับสวัสดิการแห่งรัฐ ในรอบที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.-15 พ.
ค.นี้ จะมีผู้มีรายได้น้อยมาลงทะเบียนเกิน 10 ล้านราย
- กระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ลงนามในคำสั่งพิเศษประธานาธิบดี
สหรัฐฯ (Executive Order) เพื่อดำเนินการตรวจสอบหาสาเหตุการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ กับ 16 ประเทศทั่วโลก รวมถึง
ไทยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดของคำสั่งดังกล่าว ซึ่งในเร็วๆ นี้ กระทรวงฯ จะเชิญผู้ประกอบการและภาคเอกชนที่อาจ
ได้รับผลกระทบมาหารือเพื่อหาแนวทางการรับมือมาตรการต่างๆ ที่สหรัฐฯ อาจนำมาใช้กับไทย
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ในเดือนมีนาคม 2560 ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ปรับดีขึ้นจากเดือน
ก่อนที่ระดับ 49.8 มาอยู่ที่ระดับ 52.6 และเมื่อขจัดผลของปัจจัยชั่วคราวด้านฤดูกาลออกดัชนีฯ อยู่ที่ระดับ 51.0 โดยเป็นการปรับดี
ขึ้นสูงสุดในรอบ 24 เดือน และสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตตามความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะผู้ส่งออกใน
กลุ่มธุรกิจกระดาษและการพิมพ์ การผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์ กลุ่มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และการผลิตยานยนต์ตามทิศทางการ
ส่งออกที่ปรับดีขึ้น
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่น (ทังกัน) ประจำ
ไตรมาส 1/2560 ในวันนี้ โดยระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงบริษัทผลิตรถยนต์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
นั้น อยู่ที่ระดับ +12 เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/2559 ซึ่งอยู่ที่ระดับ +10 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มบริษัทนอกภาคการผลิตในไตร
มาส 1/2560 ซึ่งรวมถึงภาคบริการนั้น อยู่ที่ระดับ +20 เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/2559 ซึ่งอยู่ที่ระดับ +18
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์เกียวโดคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ +15
- นายเบอนัว เกอร์ เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยว่า นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
เชิงรุกที่ ECB นำมาใช้นั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินและกลไกตลาดอย่างที่นักลงทุนบางส่วนวิตก เนื่องจากขณะนี้
ยังไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ถึงผลกระทบดังกล่าว
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี 2 ฉบับ โดยฉบับแรกเป็นคำสั่งให้หาสาเหตุ
ที่ทำให้สหรัฐขาดดุลการค้ามูลค่าสูงถึง 5 แสนล้านดอลลาร์ จาก 16 ประเทศ ซึ่งในรายชื่อของประเทศที่จะต้องมีการหาสาเหตุนั้น
รวมถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน โดยในคำสั่งดังกล่าวได้กำหนดให้กระทรวงพาณิชย์และผู้แทนการค้าสหรัฐทำการศึกษาเรื่องดังกล่าว
ภายในระยะเวลา 90 วัน
- นักวิเคราะห์จากหลายสำนักคาดการณ์ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจไม่เดินหน้าปฏิรูปกฏหมายประกันสุขภาพ
ฉบับใหม่ต่อไป หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ยกเลิกการลงมติเกี่ยวกับการนำร่างกฎหมาย "อเมริกัน
เฮลธ์แคร์" มาใช้แทนกฎหมาย "โอบามาแคร์" เนื่องจากเสียงสนับสนุนของพรรครีพับลิกันยังไม่มากพอต่อการผลักดันร่างกฎหมายดัง
กล่าว
- นักลงทุนยังรอดูการดูการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐหลายรายการคืนนี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาค
การผลิตเดือนมี.ค.โดยมาร์กิต รวมทั้งกระทรวงแรงงานสหรัฐที่จะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมี.ค.ในวันศุกร์
นี้