คุณวิทัต วัชโรบล ผู้อำนวยการสำนักงานความพร้อมทางการค้า กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยในระหว่างการบรรยายภายใต้หัวข้อ “การเปิดการค้าเสรีของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านภายใต้ ASEAN" ในงานสัมมนา“Uplift CLMV Experience: เปิดประตูสู่โลกการค้าอาเซียน" ว่า ปัจจุบัน ASEAN ต่างวางเป้าหมายร่วมกันไว้ ใน AEC Blueprints 2025 โดยมีทั้งหมด 5 ด้าน ซึ่งประกอบด้วย 1. ASEAN จะมีการรวมตัวและการเชื่อมโยงในระดับสูงภายในปี 2568 2. การสร้างความสามารถในการแข่งขัน นวัตกรรม และความเป็นพลวัต 3. ส่งเสริมการเชื่อมโยงด้านเศรษฐกิจและการรวมตัวหลายสาขา 4. ความสามารถในการปรับตัว ครอบคลุมทุกภาคส่วนและมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และ 5. การเป็นส่วนสำคัญของประชาคมโลก การลงทุนกับประเทศกลุ่ม CLMV จึงถือเป็นโอกาสที่ดี นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึง 10 เทรนด์ ที่นักลงทุนไทยต้องรู้ก่อนลงทุนใน CLMV ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ของกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้จัดงานสัมมนา“Uplift CLMV Experience: เปิดประตูสู่โลกการค้าอาเซียน" เพื่อสนับสนุนการค้าและการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะในประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม (CLMV) เนื่องจากการค้าระหว่างประเทศเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย โดยประเทศไทยมีมูลค่าการค้ากับ CLMV ถึง 1 ล้านล้านบาท และประเทศกลุ่ม CLMV มีกำลังซื้อมากถึง 250 ล้านคน ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ไม่ควรปล่อยผ่าน และแม้ว่าการลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่ทุกความเสี่ยงสามารถจัดการได้หากเรามีความเข้าใจเพื่อนบ้านอย่างลึกซึ้ง
สำหรับแนวโน้มที่นักลงทุนควรจะศึกษาก่อนที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ มุมมองของประเทศเพื่อนบ้านที่มองว่า สินค้าของไทยนั้นมีคุณภาพ เนื่องจากความคุ้นเคยกับผู้คนและวัฒนธรรมไทย อย่างไรก็ดี ยังมีสิ่งที่เราต้องระมัดระวัง คือ กฎระเบียบที่เราอาจจะไม่รู้มาก่อน เช่น ภาษีการนำเข้า ยานพาหนะ เป็นต้น ส่วนการทำตลาดนั้น ในบางประเทศอย่างเมียนมาที่ระบบไฟฟ้ายังไม่ครอบคลุมนั้น การทำตลาดจึงยังจำเป็นต้องแบบ below the line อยู่