พาณิชย์ติดตามสงครามในซีเรีย แต่มั่นใจยังไม่มีผลกระทบในระยะสั้น ยกเว้นราคาน้ำมัน

ข่าวเศรษฐกิจ Monday April 10, 2017 10:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงเหตุการณ์การโจมตีในซีเรียว่า เป็นเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมาย สำหรับผลกระทบต่อไทยในชั้นแรกนี้ คงจะเป็นเรื่องของราคาน้ำมัน ซึ่งผลของปฏิบัติการทำให้ ราคาน้ำมันวันศุกร์ปรับเพิ่มขึ้นทุกตลาด คือ WTI + 1.04% เป็น 52.24 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล Brent + 0.64% เป็น 55.24 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และทอง (Comex) +0.32% เป็น 1,257.30 เหรียญสหรัฐฯ ต่อออนซ์ และคาดว่าจะยังมีแนวโน้มและทิศทางที่เพิ่มขึ้น หากสถานการณ์ยังไม่ชัดเจน ซึ่งอาจจะส่งผลดีในแง่ว่า การส่งออกไทยในสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ามันอาจจะได้ราคาดีเพิ่มขึ้น

แต่ผลในเชิงลบอาจจะมีมากกว่า โดยเฉพาะกรณีที่เกิดภาวะสู้รบยืดเยื้อ เพราะความตึงเครียดอาจทำให้การค้าขายและการลงทุนโลกชะลอตัว สืบเนื่องจากการขาดความมีเสถียรภาพในเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ ราคาน้ามันที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนและราคาสินค้าซึ่งอาจจะทำให้อัตราเงินเฟ้อในประเทศเพิ่มขึ้นเช่นกัน จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อมิให้ส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ

นางอภิรดี มองว่า ตัวแปรสำคัญในขณะนี้ คือ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซีย เพราะรัสเซียมีความสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาลซีเรีย แต่ในเบื้องต้นรัสเซียแสดงความไม่พอใจกับปฏิบัติการของสหรัฐฯ โดยเห็นว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ และละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน เนื่องจากไม่ได้ผ่านการพิจารณาของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ก่อน ซึ่งรัสเซียได้เรียกร้องให้สหรัฐฯ รอผลการตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเป็นการใช้อาวุธเคมีจริงหรือไม่ ก่อนที่จะดำเนินการใดๆ

อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์นี้ ทราบว่ารัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และรัสเซีย มีกำหนดจะพบกัน (นัดหมายไว้ก่อนเกิดเหตุการณ์ในซีเรีย) ซึ่งก็หวังว่าจะหาข้อสรุปร่วมกันได้ในเชิงสร้างสรรค์

สำหรับพัฒนาการล่าสุด ที่สหรัฐฯ ส่งเรือรบบรรทุกเครื่องบินเข้าไปใกล้เกาหลีเหนือนั้น คงต้องขอดูก่อนว่าจะมีปฏิบัติการใดตามมาหรือไม่ ก่อนที่จะให้ข้อคิดเห็นต่อไป

ด้านน.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสานักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การประมาณการณ์ตัวเลขส่งออกที่ 3.0-3.5% และอัตราเงินเฟ้อของกระทรวงพาณิชย์ ที่กำหนดไว้ที่ 1.5-2.2% นั้นใช้สมมติฐานว่า ราคาน้ำมันอยู่ระหว่าง 50-60 เหรียญสหรัฐฯ ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในชั้นนี้ จึงยังไม่น่ามีผลต่อการคาดการณ์ทั้งสองด้าน เพราะยังอยู่ในช่วงที่กระทรวงประมาณไว้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ