นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่าย ซึ่งจะเป็นการนำเงินงบประมาณกลับคืนมาจากหน่วยราชการที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณไปแล้วแต่ไม่ได้มีการดำเนินโครงการได้ตามที่แจ้งไว้ โดยจะนำกลับมาจัดสรรเข้าสู่งบกลางปีต่อไป
"หลายครั้งที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณลงทุนไปให้กระทรวงต่างๆ จะพบว่าบางกระทรวงได้งบไปแต่ไม่ดำเนินการ ทำให้งบจำนวนหนึ่งไม่ได้ถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ หรือการก่อสร้างต่างๆ เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่ได้ตั้งใจไว้ นี่จึงเป็นครั้งที่ 4 ที่มีการดำเนินการ คือ โครงการไหนที่ขอเงินไปแล้วแต่ไม่ได้ใช้ รัฐบาลจะขอยึดคืนกลับมาและจัดสรรเข้าสู่งบกลางปี" นายกอบศักดิ์ ระบุ
ทั้งนี้ สำนักงบประมาณได้มีการตรวจสอบข้อมูลการเบิกจ่ายงบประมาณจากหน่วยงานต่างๆ และพบว่ามีงบประมาณจำนวน 11,866 ล้านบาท ที่ยังไม่ได้มีการเบิกจ่าย และได้ยึดคืนกลับมาใส่ไว้ในงบกลางปีเพื่อใช้ประโยชน์กับโครงการลงทุนต่างๆ ที่ประชาชนมีความต้องการ และมีความพร้อมมากกว่า
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับโครงการที่ถูกยึดเงินคืนกลับมานี้เป็นโครงการที่ไม่สามารถลงนามจัดซื้อจัดจ้างได้ทันภายในวันที่ 31 มี.ค.60 แต่หากเป็นโครงการที่ยังไม่ได้ลงนาม แต่รับทราบผลการจัดซื้อจัดจ้างเรียบร้อยแล้วและคาดว่าจะสามารถลงนามได้ภายในวันที่ 28 เม.ย.60 จะได้รับการยกเว้นให้ไม่ต้องถูกยึดเงินคืน ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 2,024 ล้านบาท พร้อมกันนี้ ที่ประชุม ครม.ยังมีมติเห็นชอบแนวทางการอุทธรณ์ กล่าวคือ หากหน่วยงานราชการ หรือรัฐวิสาหกิจต่างๆ พิจารณาแล้วเห็นว่างบลงทุนบางรายการที่ถูกรัฐบาลยึดกลับคืนไปนั้น เป็นโครงการที่มีความสำคัญสูงสามารถขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของรัฐบาล และเกิดประโยชน์ต่อประชาชนโดยรวม ก็ให้หน่วยงานนั้นสามารถยื่นอุทธรณ์มาได้ที่สำนักงบประมาณ ภายในวันที่ 30 มิ.ย.60 เพื่อที่รัฐบาลจะพิจารณาว่าโครงการที่ยื่นอุทธรณ์มานี้จะมีโครงการใดบ้างที่ได้รับการพิจารณาให้เดินหน้าต่อไป
"นี่ถือเป็นการสร้างวินัยที่ดีให้แก่หน่วยงานต่างๆ จากที่เคยคิดว่าส่งโครงการเข้าไปก่อน ของบไว้ก่อนแล้วหลังจากนั้นก็แช่งบไว้ ทำให้หลายโครงการดีๆ ของรัฐบาลไม่สามารถได้รับการจัดสรรงบประมาณได้ตามที่ควรจะเป็น ในอนาคตโครงการเหล่านั้นจะถูกยึดเงินกลับมา" นายกอบศักดิ์ ระบุ