รมว.ท่องเที่ยวฯ เตือนระวังเป็นเหยื่อธุรกิจอาหารเสริมหลอกขายทัวร์ราคาถูก-ตร.รวบ 2 เครือข่ายซินแสโชกุน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 12, 2017 15:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงกรณีการดำเนินการเอาผิดกับผู้แอบอ้างจากกรณีกลุ่มธุรกิจขายตรงหลอกลวงขายทัวร์ราคาถูกไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น มีผู้ตกเป็นเหยื่อประมาณ 400-600 คน ถูกลอยแพที่สนามบินสุวรรณภูมิว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นโดยกลุ่มธุรกิจนี้อาศัยการสื่อสารที่มีการแอบอ้างถึงเรื่องการไม่ได้ขายทัวร์ แต่ขายอาหารเสริมแล้วจัดทัวร์ให้ลูกทีมไปเที่ยว มีการจัดรายการทัวร์ โดยไม่ได้ใช้บริษัททัวร์ จึงอาจจะเข้าข่ายการประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิด ตามมาตรา 80 ผู้ใดประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามมาตรา 15 หรือประกอบธุรกิจนำเที่ยวในระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 45 วรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ขณะนี้ทราบว่ามีผู้เสียหายไปแจ้งความที่กองปราบอยู่ประมาณ 30 คน ที่เหลือจะแจ้งกับ สภ.พื้นที่ตามภูมิลำเนาที่เกิดเหตุ โดยขณะนี้ได้สั่งสั่งการผ่าน เจ้าหน้าที่ท่องเที่ยวกีฬาจังหวัด ตรวจสอบและตักเตือน สมาชิกของบริษัทนี้ในแต่ละจังหวัด ซึ่งทางกระทรวงขอเตือนประชาชนว่าไม่ควรหลงเชื่อธุรกิจที่ขายทัวร์ออนไลน์ที่ไม่ได้จดทะเบียนอย่างถูกต้อง ด้วยราคาระดับหลักหมื่นต้นๆ เท่านั้น เนื่องจากมีความเป็นไปได้ยากในการไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยการดำเนินการในลักษณะนี้

นางกอบกาญจน์ กล่าวว่า จากการประชุมล่าสุดได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่ายังมีกลุ่มสมาชิกที่สมัครใจจะเดินทางไปในช่วงวันหยุดสงกรานต์นี้กับเที่ยวบินเช่าเหมาลำ แต่จากการตรวจสอบแล้วไม่มี จึงขอย้ำว่าขอให้บางส่วนที่หลงเชื่ออยู่ให้ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องว่าเป็นบริษัทนำเที่ยวที่จดทะเบียนถูกต้องหรือไม่

"จากข้อมูลที่รับทราบทางบริษัทนี้ยืนยันว่าเป็นบริษัทขายตรง ที่ขายอาหารเสริม ไม่ใช่บริษัททัวร์นำเที่ยว แต่การที่นำนักท่องเที่ยวไปเที่ยวญี่ปุ่นถือเป็นโปรโมชั่น โดยมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 15,000-18,000 บาท/คน ทั้งนี้สนามบินสุวรรณภูมิได้ยืนยันข้อมูลว่า ตั้งแต่เมื่อวานถึงวันนี้ ไม่มีเครื่องบินแบบเช่าเหมาลำให้บริการ จึงเป็นไปไม่ได้ว่าคนจำนวน 500-600 คน จะสามารถขึ้นเครื่องออกจากสุวรรณภูมิได้" รมว.ท่องเที่ยวฯ ระบุ

ทั้งนี้ หากเกิดข้อปัญหา สงสัยว่าอาจจะตกเป็นเหยื่อธุรกิจแอบแฝงดังกล่าวนี้ สามารถโทรสายด่วนร้องเรียนได้ที่ ตำรวจท่องเที่ยว 1155 หรือกรมการท่องเที่ยว 02-401-1111

นางกอบกาญจน์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้กำชับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นภัยที่ร้ายแรงต่อประเทศ เพราะถือเป็นการหลอกลวงประชาชนจำนวนมาก นอกจากนี้ กระทรวงท่องเที่ยวฯ จะเข้าไปช่วยเรื่องการประชาสัมพันธ์ และทำความเข้าใจกับประชาชนว่าถ้าหากพบว่ามีการท่องเที่ยวในลักษณะที่มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าต้นทุนนั้น เป็นไปได้ยากที่จะสามารถเดินทางได้จริง จึงแนะนำให้ประชาชนมีการตรวจสอบบริษัทที่มีการนำเสนอทัวร์ว่ามีการจดทะเบียนที่ถูกต้องหรือไม่

ด้านนางวรรณสิริ โมรากุล อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวว่า จะต้องมีการตรวจสอบว่ากรณีดังกล่าวเข้าข่ายฐานความผิด พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวหรือไม่ ซึ่งหากพบว่ามีความผิดจะมีโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยในเบื้องต้นบริษัทดังกล่าวอ้างว่าไม่ได้เป็นการนำทัวร์ และสินค้าที่นำไปจดทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ไม่ได้จดเรื่องของอาหารเสริม แต่ระบุว่าเป็นการขายกาแฟ อย่างไรก็ดี กรณีนี้ถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาฐานฉ้อโกงประชาชนแน่นอน

ขณะที่ พ.ต.อ.สมชาย ศรีสุวรรณาภรณ์ รองผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว ยังไม่ขอยืนยันว่าตำรวจสามารถจับกุม น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาทิศ หรือซินแสโชกุน ได้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ระนอง แต่ทางผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยวได้ประกาศว่าจะต้องจับตัวให้ได้ภายในวันนี้ โดยกรณีความผิดเบื้องต้นที่พบคือฉ้อโกงประชาชน และผิด พ.ร.บ.ขายตรง

ล่าสุด สถานีโทรทัศน์รายงานว่า ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองระนอง เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมเครือข่ายของซินแสโชกุน ได้แล้ว 2 คน ขณะกำลังเตรียมจะเดินทางออกนอกประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ