นางสาวอุปมา ใจหงษ์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาตลาดตราสารหนี้ สำนักบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ภาพรวมหนี้ต่างประเทศของไทยยังอยู่ในระดับที่ไม่สูงมากหนักส่วนใหญ่เป็นหนี้ระยะยาว ดังนั้นการบริหารจัดการในช่วงที่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยมีความผันผวนอยู่บ้างจึงไม่ใช่ประเด็นที่น่ากังวล แต่ปัจจัยที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ คือ ภาวะตลาดตราสารหนี้ในประเทศที่มีเงินทุนไหลเข้า-ออกค่อนข้างเร็ว และสภาพคล่องในระบบค่อนข้างสูง จึงต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงต้นปีถึงปัจจุบัน พบว่ามีเงินทุนไหลเข้ามาในประเทศไทยแล้วประมาณ 7 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เข้ามาลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นทั้งพันธบัตรรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หลากหลายอายุ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าประเทศไทยยังมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และค่าเงินมีเสถียรภาพ จึงทำให้นักลงทุนบางส่วนโยกเงินบางส่วนออกจากสหรัฐมาพักไว้ที่ไทย แม้วาในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์มีเงินทุนไหลออกไปบ้างประมาณ 1 หมื่นล้านบาท แต่ยังไม่ใช่ประเด็นที่จะทำให้เกิดวิกฤติ
นอกจากนี้ ยังต้องติดตามกรณีเหตุขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลีระหว่างเกาหลีเหนือ ซีเรีย และสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด เพราะอาจมีผลกระทบทำให้ตลาดมีความผันผวนในระยะสั้นบ้าง
ส่วนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยช่วงปลายปี นางสาวอุปมา มองว่า ยังมีความผันผวนจากการไหลเข้าออกของเงินทุน โดยเฉพาะการโยกเงินลงทุนจากสหรัฐเข้ามาในไทย เรื่องนี้ต้องติดตามต่อไปอย่างใกล้ชิด เพราะมีปัจจัยเรื่องธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยทำให้ต้องติดตามอยู่บ้าง