นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจการดำเนินตามแผนตรวจสอบเรือประมงภายใต้มาตรการบริหารจัดการเรือประมง เพื่อแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายว่า จากมาตรการบริหารจัดการกองเรือ ในช่วงที่ผ่านมา มีชาวประมงเกือบ 2 พันลำ ร้องเรียนผ่านสมาคมประมงแห่งประเทศไทยว่า ขอให้มีการตรวจวัดขนาดเรือประมงใหม่ โดยขอให้เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ได้แก่ กรมเจ้าท่า กรมประมง กองทัพเรือ มาตรวจวัดเรือประมงใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมาการออกไปทำการประมงต้องแจ้งเข้า-ออกที่ศูนย์ PIPO หากขนาดเรือลำจริงไม่ตรงกับทะเบียนเรือจะไม่สามารถออกไปทำการประมงได้
จากการตรวจสอบผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายของทางการไทย พบว่า ยังมีผู้ลักลอบกระทำผิดกฎหมายเช่นเดียวกัน โดยอาศัยช่องว่างทางกฎหมายหลายฉบับที่ปัจจุบันยังอยู่ในกระบวนการแก้ไข ดังนั้น ทางรัฐบาล จึงจำเป็นต้องปฏิรูประบบการบริหารจัดการเรือที่ใช้ทำการประมง ขนถ่ายสัตว์น้ำ เก็บรักษาสัตว์น้ำ อีกทั้ง ขณะนี้กรมเจ้าท่าได้มีนโยบายตอกอัตลักษณ์เรือเพื่อยืนยันความมีอยู่จริงของเรือประมง ดังนั้น ทางรัฐบาล จึงจำเป็นต้องปฏิรูประบบการบริหารจัดการเรือที่ใช้ทำการประมง ขนถ่ายสัตว์น้ำ เก็บรักษาสัตว์น้ำ ตลอดจนเรือที่ใช้ในการสนับสนุนการประมง และเร่งปรับปรุงมาตรการในการควบคุมให้เกิดความถูกต้องและเป็นธรรม และเฝ้าระวังมิให้เรือดังกล่าวไปทำการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อให้สอดคล้องกับกระบวนการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย
โดยพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ประธานอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ได้สั่งการให้กรมเจ้าท่าซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการดูแลเรือประมง ร่วมกับกรมประมง และ ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) สำรวจ ตรวจเรือ และวัดขนาดพร้อมตอกอัตลักษณ์เรือประมงพาณิชย์และเรือขนถ่ายสัตว์น้ำ เรือบรรทุกสินค้าประมงห้องเย็น เรือบรรทุกสินค้าห้องเย็น เรือบรรทุกน้ำมันเพื่อการประมง เรือบรรทุกน้ำจืด หรือเรือที่ใช้ในการสนับสนุนการประมง ทั้งที่มีและไม่มีทะเบียนเรือ ใบอนุญาตใช้เรือ หรือใบอนุญาตทำการประมง ที่เข้ามาร้องเรียนผ่านทางสมาคมการประมง และเรือที่สามารถสำรวจได้เพิ่มเติม ให้เสร็จสิ้น ภายใน 20 พ.ค. 60 เพื่อให้เกิดความถูกต้องในการบริหารจัดการกองเรือประมงของไทย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะได้เริ่มดำเนินการลงพื้นที่ตรวจสอบไปจนถึงวันที่ 20 พ.ค.60
นอกจากนี้ ฝากถึงผู้ประกอบการเรือประมงและเรือที่เกี่ยวข้องทั้งหมด หากพบว่ารายการในใบทะเบียนเรือ ใบอนุญาตใช้เรือ หรือใบอนุญาตทำการประมง ไม่ตรงกับสภาพเรือตามความเป็นจริงให้มาร้องขอต่อกรมเจ้าท่า เพื่อทำการตรวจสอบและทำเครื่องหมายที่แสดงอัตลักษณ์เรือ โดยเรือที่มีขนาด ตั้งแต่ 10 ตันกรอสขึ้นไป ต้องมาดำเนินการตรวจสอบภายใน 30 วัน ส่วนเรือที่มีขนาดไม่ถึง 10 ตันกรอส หากผู้ประกอบการลำใดไม่แน่ใจขนาดของเรือ สามารถนำเรือมาให้กรมเจ้าท่าตรวจสอบตามระยะเวลาที่กำหนด ส่วนเรือประมงที่มีทะเบียนเรือแต่ไม่ได้รับใบอนุญาตทำการประมงหรือเรือที่ถูกเพิกถอนทะเบียนแต่มีลำเรืออยู่จริงก็ต้องนำเรือมาให้คณะทำงานตรวจเรือและตอกอัตลักษณ์เรือภายในระยะเวลาและสถานที่ที่กำหนดเช่นเดียวกัน